“Love You as the World Ends: The Movie : รักเธอตราบวันสิ้นโลก เดอะ มูฟวี่” หรือที่ญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า “Love You as the World Ends Final” คือภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องราวต่อจากตอนจบของมหาพากย์ซีรีส์ซอมบี้ล้างโลกฟอร์มยักษ์แดนปลาดิบ Love You as the World Ends ซีซั่น 4 ที่ดำเนินเรื่องคู่ขนานในช่วงเวลาเดียวกันไปกับซีซั่น 5

สำหรับใครที่ไม่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้มาก่อน Love You as the World Ends ฉายซีซั่นแรก 10 ตอน ในปี 2021 ต่อด้วยซีซั่น 2 มี 6 ตอน ในปีเดียวกัน ส่วนซีซั่น 3 มี 6 ตอน ฉายในปี 2022 ขณะที่ซีซั่น 4 มีอีก 5 ตอน ฉายในปี 2023 และฉบับมูฟวี่ Love You as the World Ends: The Movie ที่ต่อจากซีซั่น 4 เข้าโรงฉายที่ญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 พร้อม ๆ กับสตรีมซีซั่น 5 ในช่วงเวลาเดียวกัน

โดยในฉบับมูฟวี่ที่ญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า Love You as the World Ends Final เหมือนว่าจะเป็นตอนจบของมหากาพย์ซีรีส์เรื่องนี้ เล่าถึงเส้นเรื่องที่ “ฮิบิกิ มามิยะ” ขอแยกตัวฉายเดี่ยวไปช่วยลูกสาวที่อาคารแห่งความหวัง “ยูโทเปีย” (ขณะที่ซีรีส์ซีซั่น 5 เล่าถึงเส้นเรื่องของ คานาเอะ และอีก 3 คนที่เหลือรอดเข้าไปอยู่ในเมืองยูโทเปีย) แต่มันกลับกลายเป็นสถานที่แห่งความสิ้นหวัง ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยแรงทะยานอยากของมนุษย์ นักวิจัยภายในยูโทเปียเชื่อว่าหนทางเดียวที่โลกจะรอดพ้นจากสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่าโกเล็ม ก็คือการสร้างวัคซีน เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งมีแอนติบอดี้พิเศษ ถูกใช้เป็นตัวอย่างในการทดลอง เธอมีชื่อว่า “มิไร” และเป็นลูกสาวของ “ฮิบิกิ มามิยะ”

ฮิบิกิ ตัดสินใจไปช่วย มิไร พร้อมกับชายอีก 5 คนที่ได้เจอกันในยูโทเปีย คนเหล่านี้ต่างพยายามช่วยชีวิตผู้เป็นที่รัก ปกป้องครอบครัวและเพื่อนฝูง ไปจนถึงขโมยอาหารและขโมยเงินเพื่อความอยู่รอด แต่ละคนต่างมีสิ่งที่ตนเองยึดมั่นและต่างขัดแย้งกันเอง แต่พวกเขาก็ค่อย ๆ คล้อยตามความเชื่อของฮิบิกิ และตัดสินใจร่วมมือกันต่อสู้ ทว่ากับดักและการทรยศรอคอยพวกเขาอยู่ภายในอาคารแห่งนั้น

ด้วยความเป็นพ่อ ฮิบิกิเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ลูกของเขาสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด และมุ่งมั่นต่อสู้กับพวกโกเล็ม รวมถึงเหล่าคนอำมหิตที่ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนาวัคซีนขึ้นมาให้ได้ ฮิบิกิ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูกสาวให้ได้

จุดเด่นของ รักเธอตราบวันสิ้นโลก เดอะ มูฟวี่

ถ้าใครที่ตามดูมาทั้ง 4 ซีซั่น รวมทั้งได้ดูซีซั่น 5 ไปแล้ว ก็ต้องห้ามพลาดฉบับมูฟวี่โดยเด็ดขาด เก็บมาครบขนาดนั้น จะพลาดได้ไง ก็ต้องเก็บให้หมด

ตัวละครใหม่ของ Love You as the World Ends ที่โผล่มาในเวอร์ชั่นหนัง “ยามาโตะ ชิบาซากิ” ที่รับบทโดยนักแสดงชายสุดหล่อ “ฟุมิยะ ทาคาฮาชิ” บทเด่นไม่แพ้พระเอก “เรียวมะ ทาเคอุจิ” เลย ความหล่อน่ารักของ ฟุมิยะ จะเยียวยาทุกอย่างให้สาว ๆ ได้อย่างแน่นอน อ้อ… มี “สุดา” หรือ “สุดะ มาซากิ” รับเชิญโผล่มาเล่นด้วยนะ แอ็คติ้งจัดเต็มชนะเลิศมาก

ฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็มมีให้ได้ดูเรื่อย ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ถือเป็นจุดขายของหนัง แม้จะดราม่ามาเต็มตามสไตล์ซีรีส์เรื่องนี้ แต่แอ็คชั่นชนะเลิศ

จุดอ่อนของ รักเธอตราบวันสิ้นโลก เดอะ มูฟวี่

ใครที่ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อน ปรับตัวไม่ทันแน่นอน งงเนื้อเรื่องด้วย แม้ตอนต้นจะมีเล่าย้อน ๆ ให้ได้รู้เรื่องประมาณหนึ่งก็ตาม เพราะเนื้อเรื่องก่อนปูมาหนังมีตั้ง 4 ซีซั่น อารมณ์คนที่ไม่เคยดูซีรีส์เข้ามาดูหนังก่อนเลย มันจะขาดห้วง เพราะดราม่าและอารมณ์ร่วมของนักแสดงในหนังมาเต็มมาก เต็มแบบเต็มจัดหนักยิ่งกว่ารัชดาลัยเธียเตอร์ ซึ่งจะทำให้คนที่ไม่ได้ดูซีรีส์มาก่อนปรับตัวไม่ทัน แอ็คติ้งนักแสดงแต่ละคนจัดเต็มมาก มาแบบเบอร์ 4 ถึงเบอร์ 5 เลย เนื่องจากอารมณ์มันต่อเนื่องมาจากซีรีส์ 4 ซีซั่นที่เค้าปูกันมายาว ๆ แล้วไง คนที่หลงเข้ามามาดูหนังแบบไม่เคยดูซีรีส์ ก็นั่งอึ้งกันไป

จริง ๆ จุดอ่อนนี้มันมีมาตั้งแต่เวอร์ชั่นซีรีส์แล้ว เพราะ Love You as the World Ends เป็นซีรีส์ซอมบี้ล้างโลกที่เน้นดราม่ามากกว่าเน้นฉากหนีหรือสู้ซอมบี้ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย

3.5/5
ด้วยความยาว 1 ชั่วโมง 55 นาที ถ้าคุณไม่เคยดูซีรีส์มาก่อน ถามว่าเข้าไปดูได้ไหม ก็ได้นะ เพราะมันก็มีฉากแอ็คชั่นสนุก ๆ เยอะ ฉากดราม่าทั้งหลายก็พื้น ๆ ต่อให้ไม่เคยดูซีรีส์ก็เข้าใจได้ เพียงแต่มีปัญหาเหมือนที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า มันขาดความต่อเนื่องทางอารมณ์ ส่วนใครที่ตามดูมาทุกซีซั่น ก็ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง และต้องไปลุ้นด้วยว่า จบแบบนี้จะมีซีซั่น 6 หรือเปล่า ฟุมิยะ ทาคาฮาชิ อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกของซีรีส์นี้คนต่อไปก็เป็นไปได้นะ

หมีเช