พยายามเต็มที่แล้ว แต่ “ช้างศึก” ก็ยังทำไม่ได้

ยิ่งคิด ยิ่งเสียดาย แม้ชนะ สิงคโปร์ 3-1 อัพทุกอย่างขึ้นไปเท่าจีน ทั้งแต้ม 8 แต้ม และประตูได้เสีย ได้ 9 เสีย 9

แต่เมื่อมาดูเฮดทูเฮด กลับพ่ายไป ตกรอบ 2 การคัดเลือกบอลโลก 2 สมัยติด

ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

แค่ลูกเดียวจริงๆ

เจ็บใจยิ่งขึ้น ที่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 เพิ่มทีมจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม

รอบสุดท้ายโซนเอเชีย เพิ่มจาก 12 ทีม เป็น 18 ทีม

ไทยก็ยังทำไม่ได้

โอกาสมากมาย ที่เราทิ้งไปในเกมนี้

เราจะด่า ศุภชัย ใจเด็ด-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่พลาดเยอะ, เราจะด่า เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่พลาดจังหวะสุดท้ายไหม

หรือจะด่า มาซาทาดะ อิชิอิ ที่ไม่สามารถพาทีมบุกชนะจีนได้ และยิงสิงคโปร์ไม่พอ

เมื่อ ไทย ตกรอบเพราะเฮดทูเฮดแพ้มังกร จะไปด่า มาโน โพลกิง ข้อหาพาทีมเปิดสนามแพ้ จีน คาบ้าน ส่งผลผกผันถึงเกมนี้

คิดกันไป อย่างน้อยก็เพื่อระบายอารมณ์

แต่ถ้าแบบนั้น ก็ต้องมองไปถึงต้นเหตุ

เราจริงจังกับฟุตบอลโลกแค่ไหน

รู้ว่าอยากไป รู้ว่าอยากฝัน แต่พยายามทำแค่ไหน

ย้อนไปปีก่อรู้ก็รู้ว่าจะเริ่มคัดบอลโลก มีเกมอุ่นเครื่องไปยุโรปที่ถือเป็นการเตรียมตัวสำคัญ

แล้วสโมสรสนับสนุนแค่ไหน ส่งนักบอลไปมากแค่ไหน

รู้อยู่แก่ใจ ว่า มาโน โพลกิง ไม่ใช่ แล้วทำไมไม่กล้าปลด ทั้งที่ มาซาทาดะ อิชิอิ มาจ่ออยู่แล้ว ก่อนที่ มาโน จะนำทีมแพ้ จีน

มันเป็นเพราะกระแสแฟนบอลจาก คิงส์คัพ ถ้าปลดแล้วกลัวโดนด่าหรือเปล่า

ทุกอย่างมันเป็นโลกของ “ถ้าอย่างนั้น, ถ้าอย่างนี้”

คำถามคือ ทุกฝ่าย ทุกส่วน ทุกคนจริงจังเพียงพอไหม กับการพยายามสานฝัน

เห็นแก่ประเทศชาติ หรือเห็นแก่หน้าตา เห็นแก่สโมสรตัวเอง

มันเป็นความน่าเจ็บใจ ที่วันนี้ แม้จะเอาถึง 18 ทีมในเอเชีย เราก็ยังไปอยู่จุดนั้นไม่ได้

ขณะที่ 18 ทีม จะเตะกันในรอบ 3 ทีมไทยไม่ได้ไปร่วมวงกับเขา

ฟีฟ่าเดย์จะต้องหาทีมระดับรองบ่อนมาแข่งขันอุ่นเครื่อง

อุ่นเครื่องให้พร้อมที่สุด

เพื่อไปเอาแชมป์อาเซียนในปลายปีนี้อีกครั้ง

และกับทีมอายุ 22-23 ปี เพื่อจะไปทวงแชมป์ซีเกมส์ให้ได้

เคลียร์ทุกอย่างให้ไปเลย ของดีๆ แบบนี้

นี่คือเป้าหมายที่ไทยจริงจังมาก

จริงจัง เพราะมันใกล้มือดี ง่ายดี

ได้แชมป์มา แฟนบอลก็ดีใจ ชื่นชม

สวัสดีบอลไทย สวัสดีวังวนเดิมๆ.

*** วุฒินล ***