ทีมชาตอังกฤษ ไม่ได้แชมป์ระดับ “เมเจอร์” มายาวนานถึง 58 ปี และเอาเข้าจริง “สิงโตคำราม” เคยได้แชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่แค่ครั้งเดียว คือฟุตบอลโลก 1966
ใกล้เคียงที่สุดคือ “ยูโร 2020” (แข่งปี 2021) หรือยูโรครั้งก่อนหน้านี้ ที่พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็แพ้ต่อ “อัซซูรี” อิตาลี ในการดวลจุดโทษ
แต่ว่ากันว่า “ทรีไลออนส์” จะสามารถยุติฝันร้ายลงได้ในยูโร 2024 ครั้งนี้ เพราะทุกอย่างถึงพร้อมลงตัวทั้งหมด จนถึงขนาดถูกยกให้เป็น “เต็ง 1” ที่จะคว้าแชมป์
จะเป็นไปได้ไหม เราลองไปวิเคราะห์กัน
ผู้จัดการทีม
แกเร็ธ เซาธ์เกต จะคุมทีมลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งไม่เคยมีกุนซือทีมชาติอังกฤษคนไหนทำได้มาก่อน นับตั้งแต่ เซอร์อัลฟ์ แรมซีย์
ผลงานใน 3 รายการก่อนหน้านี้ของ เซาธ์เกต ฟุตบอลโลก 2018 ได้ที่ 4, ยูโร 2020 รองแชมป์ และฟุตบอลโลก 2022 ตกรอบ 8 ทีม โดยรวมถือว่าไม่แย่เท่าไหร่
สัญญาของ เซาธ์เกต กับ อังกฤษ จะหมดตอนสิ้นปี ถ้าหากพาทีมทำผลงานน่าผิดหวัง ที่เยอรมนี ไม่ต้องสงสัยว่า เขาคงต้องไป แต่ถ้าหากทำได้ดี โอกาสคุมต่อจนถึงฟุตบอลโลก 2026 ก็เปิดกว้าง
ทุกอย่างจึงจะถูกตัดสินในทัวร์นาเมนต์นี้ ทั้งสำหรับ เซาธ์เกต และอนาคตทีมชาติอังกฤษ
จุดแข็ง
อังกฤษ มีจุดแข็งที่สุด 2 อย่างในยูโรครั้งนี้
อย่างแรก พวกเขามีทีมที่เพียบไปด้วยประสบการณ์ไม่น้อยกว่าทีมใด นักเตะอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็คไกวร์, ไคล์ วอล์คเกอร์, คีแรน ทริปเปีย และแฮร์รี เคน ล้วนอยู่กับทีมมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018
ทั้งหมด อาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด หรือมีสภาพร่างกายที่ฟิตเปรี๊ยะเหมือนเดิม แต่สิ่งที่มีคือประสบการณ์ ที่รู้ว่าควรทำอะไรในเวลาไหน ควรเล่นแบบไหนในสถานการณ์กดดัน และควรประคับประคองบรรดาแข้งดาวรุ่ง ที่ยังห้าว และอาจจะตื่นเต้นยังไง
อย่างที่สอง พวกเขามีขุมพลังในเกมรุกที่ทุกทีมต้องอิจฉา และดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ก็ว่าได้
แฮร์รี เคน ยิง 44 ประตู จาก 45 เกมให้ บาเยิร์น มิวนิก ขณะที่ จูด เบลลิงแฮม ก็เพิ่งพารีล มาดริด ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วน ฟิล โฟเดน ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก และ บูกาโย ซากา ก็มีปีที่มหัศจรรย์กับ อาร์เซนอล
ไหนะจมีพวกฟอร์มแรงๆที่ขึ้นมาอีกอย่าง โคล พาลเมอร์, แอนโธนี กอร์ดอน, อาเบริซี เอเซ รวมถึง โอลี วัตกินส์ ทำให้ถ้ารวมกันเล่นได้ดีๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวใคร
จุดอ่อน
ถ้าเกมรุกคือจุดแข็ง เกมรับก็คือจุดอ่อนของอังกฤษชุดนี้
ความจริงแล้ว เกมรับคือปัจจัยหลักที่ทำให้ทีมของ เซาธ์เกต ทำผลงานดีในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาตลอด แต่ 2 ตัวหลักอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ และ จอห์น สโตนส์ มีฤดูกาลที่ไม่ดีนัก ทั้งเจ็บ และไม่อยู่ในฟอร์ม ตัวเลือกรองลงมาที่ดีที่สุดจึงตกไปอยู่ที่ มาร์ค เกฮี ที่ยังไม่มีประสบการณ์
แบ๊กซ้าย ก็เป็นอีกตำแหน่งที่น่าห่วง เพราะ ลุค ชอว์ เจ็บมาตลอด และไม่รู้จะฟิตแค่ไหน เบน ชิลล์เวลล์ ก็ไม่ติด ตัวเลือกจึงเหลือเพียง คีแรน ทริปเปียร์ ที่นอกจากตำแหน่งถนัดจะเป็นแบ๊กขวาแล้ว เขายังฟอร์มไม่ดีกับ นิวคาสเซิล ในฤดูกาลนี้ด้วย
มิดฟิลด์ตัวกลาง ดูเผินๆอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีใครเล่นคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งถ้ายังไม่รู้ว่าเป็นใคร นอกจากจะทำให้ไม่ลงตัวแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครดีพอด้วย
มีโอกาสมากแค่ไหน
บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในต่างประเทศ ต่างยกให้ “สิงโตคำราม” เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ ซึ่งตามสถิติความเป็นไปได้จาก “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” มันก็บอกเช่นนั้น
อังกฤษ คือทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุดคือ 19.9% เพราะผลงานดีในช่วงที่ผ่านมา และนักเตะแต่ละคนฟอร์มดีกับต้นสังกัดทั้ง เคน, เบลลิงแฮม หรือ โฟเดน
สิงโตคำรามอยู่ร่วมกลุ่ม C กับ สโลวีเนีย, เดนมาร์ก และเซอร์เบีย จากการคำนวณของ Opta พวกเขามีโอกาสผ่านรอบแรกถึง 95.4% แต่การเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ให้ได้ ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าหากเป็นที่ 2 อาจเข้าไปเจอ เยอรมนี
พวกเขายังมีโอกาสเข้ารอบ 8 ทีมในยูโร ครั้งที่ 3 จาก 4 ครั้งหลังถึง 70.0% และมีโอกาสเข้ารอบตัดเชือก 48.2% ซึ่งมากกว่าทุกทีม ส่วนโอกาสเข้ารอบชิงฯ 31.1% และแชมป์ 19.9%
จะได้แชมป์ไหม?
อย่างที่กล่าวมาทั้งหมดว่า อังกฤษ มีความพร้อมทุกอย่างที่จะคว้าแชมป์ และควรจะทำให้ได้ด้วย แต่ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ มีปัจจัยที่ไม่คาดคิดมากมาย และอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าหากทำได้ตามที่ควรจะเป็น อังกฤษ มีสิทธิฝันสูงได้แน่ แต่ถ้าหากเป็นอีกด้าน พวกเขาก็อาจต้องผิดหวังอีกครั้ง
กองเชียร์ และการไปเล่นที่เยอรมนี ก็เป็นอีกปัจจัยที่มองข้าไม่ได้ เพราะถึงแม้ชาวเมืองผู้ดีจะเดินทางไปเชียร์ง่าย แต่ อังกฤษ กับ เยอรมนี เป็นคู่รักคู่แค้นกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงน่าจะซัดกันมัน และเพิ่มดีกรีความเดือดเข้าไปอีก
หรือถ้าหากต้องยื้อกันถึงการดสลจุดโทษ อังกฤษ ก็ต้องระวัง และเตรียมตัวให้ดี เพราะในบรรดาทีมที่ต้องยิงจุดโทษตัดสินอย่างน้อย 2 ครั้งในยูโร พวกเขามีสถิติแย่ที่สุดกว่าทุกชาติ
และชนะแค่ 1 จาก 5 ครั้งเท่านั้น.
