อากวิเลอา ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่บอกเล่าเรื่องโมเสก หัตถศิลป์ชิ้นเอกจากอิตาลี โดยพื้นโมเสกภายในมหาวิหารอัสสัมชัญของพระแม่มารีย์ ถือเป็นผลงานโมเสกผืนใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อจักรพรรดิคอนสตันตินุสให้ชาวโรมันมีเสรีภาพในการนับถือคริสต์ศาสนาได้ตามศรัทธาของตน ผลงานโมเสกจากที่นี่อุดมไปด้วยการใช้รูปสัญลักษณ์เพื่อสื่อความหมายทางคาทอลิก ฯลฯ

ปาแลร์โม /มอนเรอาเล ผลงานโมเสก ที่เกาะซิซิลีก็ไม่น้อยหน้า มีความละเอียดซับซ้อน แสดงให้เห็นฝีมือการสร้างสรรค์ผลงานภายในโบสถ์น้อยกัปเปลลา ปาลาติน่า, อาสนวิหารแห่งมอนเรอาเล และที่โบสถ์มาร์โตรานาเล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ ฯลฯ หรือที่เมือง บาย่า อุทยานโบราณคดีใต้นํ้าที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลอันเกิดจากปรากฏการณ์ยุบตัวของผิวโลกในแถบภูเขาไฟ หากจะชมชิ้นงานโมเสก จะต้องดำลงไปใต้นํ้า ใช้มือปัดชั้นทรายที่ทับถมอยู่ เรียนรู้เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ ฯลฯ เป็นอีกส่วนหนึ่งใน 8 เมืองที่จัดแสดงศิลปะโมเสก ในนิทรรศการอาเซียนทัวร์ Mosaico-Italian code of a timeless art โดย สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ มิวเซียมสยาม ร่วมกับสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทยจัดขึ้น

โดยเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความร่วมมือระหว่างสถาบันฯและสถานทูตอิตาลีฯ ส่งเสริมความร่วมมือในการเผยแพร่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ผลงานศิลปะทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งในคอลเลกชันฟาร์เนซีน่า ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินอิตาลีที่สร้างสรรค์ขึ้นในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 20 และ 21 และเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานใหญ่ กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของรัฐบาลอิตาลี

นิทรรศการครั้งนี้ มองโมเสก : ถอดรหัสหัตถศิลป์จากดินแดนอิตาเลีย นำเสนอผลงานโมเสกชิ้นเอกจัดแสดงในรูปแบบ Multimedia Immersive ฉายภาพ ประกอบเสียงบรรยายทำให้ได้ชมความงามของลวดลายและได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และศิลปะโมเสกที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศอิตาลี พร้อมถอดรหัสหัตถศิลป์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างฝีมือชาวโรมันและศิลปินร่วมสมัยที่สร้างสรรค์ผลงาน

ศิลปะโมเสกจาก 8 เมืองซึ่งได้แก่ โรม ปอมเปอี อากวิเลอา ราเวนนา ปาแลร์โม / มอนเรอาเล ปีอาซซ่า อาร์เมรีนา และบาย่า ที่จัดแสดง สุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติแนะนำในเบื้องต้นว่า นิทรรศการครั้งนี้เป็นนิทรรศการที่ทางอิตาลีได้จัดแสดงในหลายประเทศ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่สองในเอเชียที่จัดแสดง โดยแสดงต่อเนื่องถึง 25 มิถุนายนในพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ มิวเซียมสยาม โดยไม่เสียค่าเข้าชม และตลอดช่วงนิทรรศการชวนถอดรหัสศิลปะโมเสก เรียนรู้ประวัติศาสตร์โดยมีกิจกรรมพิเศษในทุกวันเสาร์

“นิทรรศการชุดนี้นำเสนอด้วยรูปแบบMultimedia Immersive สามารถดูร่วมกับสื่อผสมต่าง ๆ และสามารถเคลื่อนย้ายนำไปหมุนเวียนจัดแสดงในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่มิวเซียมสยามให้ความสำคัญ ส่งเสริมเรื่องความยั่งยืน นิทรรศการชุดนี้นำเสนอศิลปะโมเสกใน 8 เมืองโดยสามารถฟังบรรยายโดยมีข้อมูล 3 ภาษาทั้งภาษาไทย อิตาเลียนและภาษาอังกฤษผ่านเครื่องบรรยายออร์ดิโอไกด์”

ทางด้านภัณฑารักษ์กล่าวเพิ่มอีกว่า นิทรรศการออกแบบโดยปรับให้เหมาะกับพื้นที่และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สามารถประกอบติดตั้งนิทรรศการได้อย่างเหมาะสมและสามารถประสานงานได้จากระยะไกล และในการจัดแสดงด้วยเทคนิคดังกล่าว แม้จะไม่สามารถทดแทนศิลปะภาพจริง

แต่สามารถส่งเสริมฟื้นฟูบริบททางประวัติศาสตร์ซึ่งมีประโยชน์สำหรับงานศิลปะสถาปัตยกรรม ศิลปะกระเบื้องโมเสกที่ไม่สามารถนำไปจัดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งช่วยให้ผู้ชมเข้าถึง ดังเช่น โมเสกที่อยู่ใต้นํ้าเมือง บาย่า อุทยานโบราณคดีใต้นํ้า จากที่กล่าวหากจะชมชิ้นงานโมเสกจะต้องดำลงไปใต้นํ้า ในนิทรรศการฯจะเห็นถึงการใช้เทคนิค ฉายภาพให้เห็นรายละเอียด ชมความสวยงามโมเสกสัมผัสในสภาพจริง

เช่นเดียวกับ โรม โซนแรกของนิทรรศการซึ่งแสดงผลงานโมเสกชิ้นเยี่ยม จากพิพิธภัณฑ์คาปิโตลินี แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของอาณาจักรโรมัน เป็นชิ้นงานที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะคริสเตียนตอนต้นและเรื่องราวที่เล่าผ่านโมเสกบนผนังและหลังคาโดม ฯลฯ

ส่วนที่เมือง ปีอาซซ่า อาร์เมรีนา ได้ชมและเรียนรู้ขนบประเพณีและกิจวัตรของชาวโรมัน จากโถงทางเดินและห้องต่าง ๆ ภายในวิลล่าโรมานาเดล คาซาเล วิลล่าหรูในปลายยุคจักรวรรดิโรมัน พื้นโมเสกหลากสีสดใส แสดงให้เห็นกิจกรรมประจำวันของชาวโรมันช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษ มีภาพไฮไลต์ อย่างการล่าสัตว์ ภาพการใช้ชีวิตของเหล่าวีรบุรุษ และทวยเทพต่าง ๆ และผลงานโมเสกเลื่องชื่อ อย่างภาพ “Bikini Girls” ฯลฯ ฉายให้เห็นรายละเอียดของโมเสก หรือแม้ที่อยู่บนพื้น นำมาจัดแสดงให้ชมใกล้ชิด ได้เห็นรูปแบบผลงานสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์

ทางด้าน ชนน์ชนก พลสิงห์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) กล่าวเพิ่มอีกว่า ศิลปะโมเสก งานหัตถศิลป์ที่มีการสืบทอดกันในประเทศอิตาลีมายาวนาน ในนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงเพื่อเชื่อมโยงการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและเรียนรู้ศิลปะโมเสกจากช่วงเวลาแต่ละยุคที่ผ่านมาจากนิทรรศการฯเราได้ออกแบบจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบ ทั้ง Mosaic wall making with recycle materials นำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะตกแต่ง ทั้งสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สามารถสัมผัสได้จริง ผ่านเวิร์กช็อปและเสวนา Talk Touch Taste

“การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เข้ากับประสบการณ์ที่สร้างการจดจำอย่างรื่นรมย์มีความสำคัญ จากนิทรรศการด้วยแนวคิดของมิวเซียมสยามเราออกแบบเชื่อมโยงนิทรรศการฯ ที่มีเนื้อหาจากประวัติศาสตร์ต่างวัฒนธรรมให้เข้ามาใกล้ผู้ชมยิ่งขึ้น ขยายประเด็นเนื้อหาโมเสกอิตาลีกับประวัติศาสตร์ของไทยและบริบทสังคมไทยร่วมสมัยในปัจจุบัน”

นอกจากการเสวนา การบรรยาย ยังมีเวิร์กช็อป โดยทอล์ก มองโมเสกมุมเทพปกรณัม ให้แบ็กกราวด์ ได้เรียนรู้แหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ชวนเรียนรู้และเข้าใจ รวมถึงทอล์กในครั้งต่อไป โมเสกอิตาลีในสยาม โมเสกอิตาลีวัดราชบพิธเกร็ดประวัติศาสตร์การทำโมเสกแบบดั้งเดิม รวมถึงเล่าประวัติศาสตร์ศิลป์ถิ่นอิตาลี

นอกจากนี้ยังชวนเรียนรู้ศิลปะโมเสกผ่านกิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน โดยนำภาพถ่ายจากนิทรรศการนำมาทดลองทำเสมือนเป็นช่างโมเสก จากที่กล่าวนับแต่การเลือกวัสดุโมเสก เลือกชนิดหิน รวมถึงสีสัน ฯลฯ ทุกขั้นตอน มีรายละเอียดโดยทั้งหมดนำมาร่วมส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชวนสัมผัสความงามศิลปะโมเสก.

พงษ์พรรณ บุญเลิศ