“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย สุดทางฝันเอเชียนคัพ แม้จะตามตีเสมอ อุซเบกิสถาน แต่ก็มาเสียประตูพ่าย 1-2 จอดแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยังไม่ทำประวัติศาสตร์บทใหม่

อ่านข่าว : ‘สุภโชค’ปั่นสวย แต่ช่วยไม่ไหว ‘ช้างศึก’อกหักพ่าย ‘อุซเบฯ’หวิว ร่วงอช.คัพ

เจาะลึกแผนการ รายละเอียดของเกม อนาคตข้างหน้า จะเป็นอย่างไร และนี่คือ 5 ประเด็นหลังเกมเสียท่า หมาป่าขาว

จัดตัวแบบเซอร์ไพรส์

หลังจากพักตัวในเกมกับ ซาอุดีอาระเบีย ใครก็คิดว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะกลับมาใช้ทีมชุด 2 เกมแรก

ที่ไหนได้ อิชิอิ แทบจะแบ่งครึ่งๆ ผู้เล่นแดนกลาง จากที่ลง 2 เกมแรกนั้น เปลี่ยนถึง 4 คน คือ สารัช อยู่เย็น ลงแทน พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, แนวรุก ไม่มี (จากซ้าย) บดินทร์ ผาลา, สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แต่ส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก

อ่านใจ อิชิอิ วางผู้เล่น เพื่อยื้อเกมยาว จึงตัดสินใจเก็บ “พี่น้อง 2S” สุภโชค-ศุภณัฏฐ์ ไว้ครึ่งหลัง เพื่อใช้สปีดบอล และความเร็วเล่นงานคู่แข่ง ดังนั้นจ๊อบของ ปฐมพล รวมทั้ง รุ่งรัฐ หลักๆคือช่วยแบ๊กปิดเกมรุกอุซเบฯ ถึงจบที่ 0-0 ใน 45 นาทีแรก ถือว่าแผนนี้ ซื้อได้สำเร็จ

…แต่ไม่

คมเขี้ยวหมาป่าขาว

อุซเบกิสถาน เบอร์ 9 เอเชีย แต่มาตรฐานถือว่าอยู่ในจักรวาลเดียวกับอย่างน้อย 5-6 ทีมข้างบน

สูง ใหญ่ เร็ว ทักษะดีทุกคน ความสามารถเฉพาะตัวดี ไปเองได้

และที่น่ากลัวกว่า 3 ทีมที่ไทยเจอมา ก็คือ “ทีมเวิร์ค”

อุซเบฯ ชิ่ง 1-2 ทำเกมรุกเร็วมาก สไตล์แบบนี้ ถ้าแม่น กองหลังดียังไงก็ไม่ทัน ซึ่งพวกเขาทักทายเราหลายครั้ง ก่อนมาได้จากการเปลี่ยนแกนซ้ายไปขวา ข้ามหัว ธีราทร บุญมาทัน ที่หุบเข้ามา จนโดนลงโทษ แผนของไทยจึงจะต๊ะตอนยอนต่อไปไม่ได้

หรือแม้แต่ตอนที่ ไทย ตีเสมอแล้ว อะไรทำท่าจะดี แต่เมื่อเสียสมาธินิดเดียว คมเขี้ยวของหมาป่าก็ลงทัณฑ์ จากตัวเก่งของเขา ออบโบสเบ็ก ฟายซุลลาเยฟ

นี่แหละขึ้นชั้นไประดับเอเชีย พลาดไม่ได้ เผลอไม่ได้ แม้แต่เสี้ยววินาที

“สุภโชค”คีย์แมนช้างศึก

แม้จะไม่เด่นมาก แต่มองในภาพกว้าง สุภโชค สารชาติ รวมถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คือคลาสบอลเหนือคนอื่น จังหวะเร่งเกม ทำเกม สู้กับเอเชียได้ และประตูตีเสมอ ก็มาจาก บุรีรัมย์ คอนเน็คชั่น ธีราทร บุญมาทัน กดดัน ได้บอล สุภโชค ทำชิ่ง ศุภชัย ใจเด็ด ก่อน เช็ค ปั่นโค้งสวยงามมาก

บอลประเภทกล้าเล่น กล้าลุยไปข้างหน้า กล้าได้กล้าเสีย เป็นความโดดเด่นของ สุภโชค หรือแม้แต่ ศุภณัฏฐ์ ที่ได้เรียนรู้จากการไปเล่นต่างแดน เกมรุกไม่มีเวลาแต่งตัว มีช่องเพียงนิดต้องลุยขึ้นไป

นักเตะไทยลักษณะนี้ มีน้อย ขณะที่แนวรุก อุซเบฯ ได้แทบทุกคน

เอเชียคืออีกระดับ

โดยรวมไม่เสียหาย ไม่น่าเกลียด กับเอเชียนคัพ หนนี้ แต่ปลายทางไม่ได้ดีกว่าหนที่แล้ว ที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

นัดแรกชนะ คีร์กีซสถาน ได้ซด ได้แลก มากที่สุด ส่วนอีก 3 เกมต่อมา กับโอมาน, ซาอุดีอาระเบีย(ใช้ชุดสำรองทั้งคู่) และ อุซเบกิสถาน เห็นๆ กันว่าคุณภาพเป็นรอง

แท็คติกที่ อิชิอิ นำมาใส่ ทำให้เราพอจะเบ่งตัวสู้กับทีมเหล่านี้ได้ แต่จะตื๊ออย่างเดียวมันไม่พอ เบ่งนานๆ มันก็เหนื่อย ต้องมีทีเด็ด ความคมกริบ เข้ามาด้วย ได้ต่อยต้องน็อก ทีเด็ดลูกยิงไกลหวังผลต้องมีมากกว่านี้

แนวรุก หมัดน็อก แทบจะหวังแค่ สุภโชค

ฟรีคิกทำไม่ได้ ถึงจะต้านทานดีอย่างไร ก็รอเวลาโดน

นั่นคือเรื่องของ “คุณภาพ” ที่ต้องใช้เวลา

ชนะแล้วชมเลิศลอย เมื่อแพ้อย่าเพิ่งด่า

จากผลงานแรกๆ ทีมไทย และ อิชิอิ อยู่ในบรรยากาศหอมหวานมาก ทำอะไรดีไปหมด แฟนชม อิชิอิ นั่งกับพื้นสอนบอลยังชมว่าติดดิน …อ่ะจ้ะๆ

นั่นคือกระแสเหวี่ยงของแฟนบอล บอลชนะ อะไรก็ดีไปหมด เหมือนๆกับตอนต้นของ มิโลวาน ราเยวัช, ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย, อากิระ นิชิโนะ และ มาโน โพลกิง อะไรก็ดีแบบนี้

อิชิอิ วางแท็คติกเกมรับได้ดี ยื้อได้ ตื๊อได้ อันนี้ต้องชม กับศาสตร์บอลที่ไทยขาดไป

อย่างไรก็ตามตอนนี้เราพลาดท่าแพ้แล้ว แสดงให้เห็นว่าการขยับไปให้ถึงเอเชีย ยังต้องการอะไรอีกหลายอย่าง

การทำงานของเขาเพิ่งเริ่มต้น ต้องให้เวลา

ที่สำคัญต้องให้การสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะจากสโมสร

ส่วนแฟนบอลอย่างเราๆ ก็ให้กำลังใจ วิจารณ์ได้ แต่อย่าด่าเอามัน คนเขามีพ่อ มีแม่ ไม่ใช่กระโถนท้องพระโรง

รอชมรอเชียร์ต่อไป

สนามหน้า คัดบอลโลก เดือนมีนาคม เยือนและเหย้า เกาหลีใต้ 2 นัดรวด

มาดูแท็คติก และวิธีการของ อิชิอิ กัน ว่าจะยื้อโสมขาวได้มาสักแต้มหรือไม่.

*** วุฒินล ***