ปีนี้ในด้าน ภูมิรัฐศาสตร์โลก เป็นปีแห่งการเลือกตั้งผู้นำมหาอำนาจโลก ที่สหรัฐอเมริกา จะมีการเลือกตั้งใหญ่ คู่ชิงคงเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน ถ้าได้คนบ้าระห่ำอย่าง ทรัมป์ ชาตินิยมขวาจัด อันดับแรกคงปล่อยเกาะ เลิกหนุนยูเครน โฉมหน้าสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะเปลี่ยนไป ที่รัสเซีย ไม่ต้องพูดถึงอดีตเคจีบีเก่า วลาดิเมียร์ ปูติน คงตายคาเก้าอี้ หลังเป็นแล้วกว่า 2 ทศวรรษ และคงจะเป็นไปเรื่อย ๆ ที่ไต้หวัน (สี จิ้นผิง พูดถึงการรวมชาติไต้หวันแล้ว) อังกฤษ อินเดีย ก็จะมีการเลือกตั้งผู้นำเช่นกัน สรุปนักวิชาการรัฐศาสตร์มองตรงกันว่า
ปี 67 ลมฝ่ายขวา ลัทธิชาตินิยม น่าจะเป็นกระแสหลักของโลกต่อไป
หันมาดูเมืองไทย โหรใหญ่ โสรัจจะ นวลอยู่ “นอสตราดามุส” เมืองไทย เป็นวิศวกร แต่เก่งดูดวง ชื่อขายได้เลย เปิดคำทำนายทีไร หัวจะระเบิด ปี 67 โหรโสรัจจะ บอกเป็นปีมังกรไฟบรรลัยกัลป์ที่ร้ายแรงกว่าปีที่ 66 จะมีนายกฯ 2 คน ชายคน หญิงคน อายุน้อยทั้งคู่ โอกาสเกิดหลัง 30 เมษายน อาจยุบสภาหลังตุลาคม 67 หรือไม่ก็มีการจัดตั้งรัฐบาลในแบบที่ไม่เคยเห็น “นายกฯ คนใหม่ถ้าเป็นผู้หญิงจะขาว อายุน้อย (แพทองธาร มีสิทธิ) แต่ถ้าเป็นผู้ชายจะผิวสองสี น่าจะเป็นนักธุรกิจที่เห็นในสื่อ แต่ไม่บ่อย อายุ 40 กว่า บุคลิกดีมีความรู้ พูดได้หลายภาษา จะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองไทยอย่างแท้จริง แต่จะอยู่ไม่นาน จะเลือกตั้งใหม่ทั้งที่เพิ่งเลือกตั้งได้ไม่นาน” สรุปมีนายกฯ มากกว่า 2 คน…
คำทำนาย เรื่องยุบพรรค คือ อาจเป็นพรรคที่เคยถูกยุบหรือเป็นพรรคใหม่ก็ได้ จะถูกยุบประมาณ 3 พรรค ความโกลาหลจะเกิดขึ้นตรงนั้น ( 24 ม.ค. ศาล รธน.จะชี้ชะตาคดีถือหุ้นสื่อไอทีวีของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, 31 ม.ค. ศาล รธน.จะชี้ชะตาพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ ม.112 โดนยุบพรรคหรือไม่) แต่พีคของพีคคือ นักข่าวถาม จะมีรัฐประหารมั้ย โหรใหญ่บอก น่าจะมี แต่แป๊บเดียว แล้วทุกอย่างจะกลับมาปกติ…(พร้อมใจเลิกถามคำถามเฮงซวยแบบนี้เหอะ ไม่เจริญเลย)
แต่ใด ๆ คืออย่าลืมพระพุทธองค์ทรงสอนหลัก อิทัปปัจจยตา ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ จะดับทุกข์ ก็ต้องดับที่เหตุ ไม่ใช่มโนเอา การกระทำ (กรรม) จะบอกอนาคต ถามหาความสามัคคีปรองดอง แต่จับเยาวชนคนรุ่นใหม่มัดตราสัง ไม่ส่งเข้าคุกก็ดำเนินคดีเป็นพันๆ คน จ้องยุบพรรคไม่เลิก ใครคิดตรงข้าม โดนหมด เพราะเชื่อว่า ลุกฮือ ก็ปราบอยู่ แล้วประเทศจะสงบได้ไง ก้าวไปข้างหน้าได้ไง พวกอำนาจแฝง “ไอ้โม่ง” ก็เลิกบงการซะที ดีมั้ย?!?
อีกคนที่ต้องฟัง ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์นักรัฐศาสตร์ ผู้ลือนาม เก่งด้านความมั่นคง สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เชิญ
เป็นที่ปรึกษา แต่ไม่รับเสนอให้มีรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงนานแล้ว (ขอเสริมนิด…เอาที่ที่ก้าวหน้า เก่ง มีวิสัยทัศน์ การปฏิรูปกองทัพ อีกหัวใจสำคัญการเมืองไทย จะได้เกิดขึ้น และควรรีบหา รมว.คลังด้วย)
ดร.สุรชาติ วิเคราะห์ไว้โดยภาพรวม คือ การเมืองยังทุลักทุเล เศรษฐกิจยังผันผวน ความมั่นคงแกว่งไปแกว่งมา และด้านสังคม จะเปราะบาง หลังสงกรานต์จะมีเลือก สว.ใหม่ ใครคือกลุ่มใหญ่ ต้องดู ถือว่า 3 ป. ปิดฉากเหลือแค่เงามืด ๆ มีถนน 5 สายที่นายกฯ เศรษฐาต้องคุมคนขับ 1.ถนนสายสังคม คือ ภาวะชีวิตผู้คนในประเทศ 2.ถนนสายการเมือง 3.ถนนสายเศรษฐกิจ (แค่ลุ้นเงินดิจิทัล 1 หมื่นก็หอบแล้ว) 4.ถนนสายต่างประเทศ 5.ถนนสายความมั่นคง ที่มีคนถือปืนดักรออยู่ หาก ครม.ไม่เข้าที่เข้าทาง นโยบายจะผลักดันไม่ได้เลย ตอนนี้ดูผิดฝาผิดตัว ซอฟต์พาวเวอร์ก็ดูเหมือนป้ายโฆษณาติดข้างรถ
สรุปของสรุป “ผมอยากให้นายกฯ นั่งนิ่ง ๆ ที่ไม่ใช่เจริญภาวนาสติ แต่ให้มองทะลุไปถึงถนน 5 สายแล้วทำความเข้าใจชนิดถ่องแท้ เศรษฐกิจ ท่านรู้ แต่อีก 4 สาย อยากให้หาผู้รู้มาปรึกษา กินข้าวถกเถียง เปิดใจรับฟัง ร่วมทำนโยบาย เพราะถนน 5 สายกับดักมากมาย” เห็นด้วยเลย นายกฯ นิดต้องตั้งหลักใหม่ คิดแบบ “รัฐบุรุษ” ในเมื่อตั้งใจจะอยู่ครบ 4 ปี เลิกยุทธศาสตร์ชาติไดโนเสาร์ 20 ปี ก็ต้องขับรถบนถนนมหาโหด 5 สายนี้ด้วยความสมาร์ต พาประชาชนให้ถึงจุดหมาย ปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุ ตกถนน รถพังพินาศ ผู้โดยสารพลอยบาดเจ็บล้มตาย
สำคัญอยู่แต่ว่าคนชื่อ เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นตัวของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนกระมัง
———————-
ดาวประกายพรึก
