เปิด พ.ศ. ใหม่ 2567 มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ คือ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. 67

สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณฯ ปี 67 คือ 3.480 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 66 จำนวน 295,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.3% แยกเป็น 1.รายจ่ายประจำ 2.532 ล้านล้านบาท 2.รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้านบาท 3.รายจ่ายลงทุน 715,381 ล้านบาท 4.รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 118,320 ล้านบาท

ส่วนวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล กำหนดไว้ที่ 693,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.63% ต่อวงเงินงบประมาณรวม หรือลดลงจากปี 66 ซึ่งมีวงเงิน 695,000 ล้านบาท จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือลดลง 0.3% ขณะที่ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ ประเมินไว้ที่ 2.787 ล้านล้านบาท

ขณะที่หนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 .. 66 คือ 11.125 ล้านล้านบาท (62.1% ของจีดีพี) โดยต้องชำระคืนต้นเงินกู้ 118,320 ล้านบาท และชำระคืนดอกเบี้ย 228,060 ล้านบาท

มหาดไทย-ศึกษาฯ-คลัง'กวาดงบประมาณปี 67 สูงสุด

สำหรับกระทรวงต่าง ๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบฯ ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย 353,127 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ 328,384 ล้านบาท กระทรวงการคลัง 327,155 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม 198,320 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม 183,653 ล้านบาท

กระทรวงสาธารณสุข 165,726 ล้านบาท กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 127,546 ล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 118,596 ล้านบาท กระทรวงแรงงาน 61,658 ล้านบาท สำนักนายกรัฐมนตรี 34,553 ล้านบาท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 33,231 ล้านบาท กระทรวงยุติธรรม 25,987 ล้านบาท กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 25,327 ล้านบาท กระทรวงการต่างประเทศ 9,009 ล้านบาท กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 8,827 ล้านบาท

กระทรวงวัฒนธรรม 7,016 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ 6,822.0 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 5,591 ล้านบาท กระทรวงอุตสาหกรรม 4,559 ล้านบาท กระทรวงพลังงาน 2,834 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรงบฯ เพิ่มเติม เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% รายได้เงินชดเชยเงินคงคลัง 1.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% ส่วนงบกลาง 6.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1%

ขอเชิญฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลอภิปรายงบฯ ปี 67 กันพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่ต้องถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจงบฯ! เนื่องจากล่าช้ามากแล้ว เพราะรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เพิ่งมาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 12 .. 66 (หลังแถลงนโยบาย) เนื่องจากการตั้งรัฐบาลล่าช้า! ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคอื่น ๆ รอพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อนนั่นแหละ!

นอกจากการอภิปรายงบประมาณฯ ปี 67 ในวาระที่ 1 แล้ว! จะมีการพิจารณาออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาปลุกเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นอกจากนี้ยังต้องมีเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ม.ค. 67 เพื่อให้ ครม.พิจารณาอนุมัติทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.)

เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว เป็นหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเปิดทำประชามติภายใน 90 วัน นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ให้ประเทศและประชาชนก้าวเดินไปข้างหน้ามากกว่ารัฐธรรมนูญปี 60

ช่วงวันที่ 15-19 ม.ค. 67 นายเศรษฐามีโปรแกรมไปร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) 2024 ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ โดยนายกฯ จะนำโครงการแลนด์บริดจ์ไปโรดโชว์ด้วย

ส่วนวันที่ 24 .. 67 ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ถือหุ้นสื่อ จากนั้นวันที่ 31 .. 67 ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดี “พิธาพรรคก้าวไกล” หาเสียงว่าจะแก้มาตรา 112 “พยัคฆ์น้อย” พล่ามมาเสียยืดยาว แต่การเมืองเดือน ม.. 67 มีลุ้น มีเสียวสันหลัง ตรงย่อหน้าสุดท้ายนี่เอง!!.