หนุ่มเกษตรกรชาว อ.กันตัง จ.ตรัง ขานรับนโยบายเลี้ยง “ปูหน้าขาว” หรือ “ปูทองหลาง” ตามโครงการของกรมประมง ประสบความสำเร็จเกินคาด..

นายวรุฒม์ ธนากรเจริญ อายุ 52 ปี อาชีพก่อนนี้เคยเลี้ยงกุ้งกุลาดำขายตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่ผ่านมาครอบครัวประสบปัญหาขาดทุนล้มลุกคลุกคลาน จนต้องปล่อยบ่อกุ้งเนื้อที่ 3 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง ให้ทิ้งร้าง ต่อมาสำนักงานประมงจังหวัดตรัง ได้จัดทำโครงการนำร่องชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการเลี้ยงปูทะเลในบ่อกุ้ง จึงเกิดความสนใจและเรียนรู้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสจากบ่อกุ้งร้างของพ่อ กลายเป็นบ่อเลี้ยงปูทำเงิน สร้างรายได้งาม

วรุฒม์ เล่าว่า ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนบ่อที่เคยเลี้ยงกุ้งกุลาดำซึ่งปล่อยทิ้งร้างมานาน หันมาเลี้ยง “ปูหน้าขาว” หรือ “ปูทองหลาง” เป็นปีแรก ตามโครงการพัฒนาต้นแบบการเลี้ยงปูทะเลในบ่อกุ้งของกรมประมง โดยเกษตรกรใน จ.ตรัง เข้าร่วมโครงการจำนวน 5 ราย รายละ 1 อำเภอ อำเภอละ 1 บ่อ บนเนื้อที่บ่อละ 3 ไร่ ปูหน้าขาวเป็นปูทะเลที่โตเร็วได้น้ำหนัก และราคาดีกว่าปูดำและปูม้า เนื้อปูแน่น ก้ามโต ตัวใหญ่ รสชาติหวานมันกว่าเนื้อปูทะเลชนิดอื่น ราคาดี ที่สำคัญไม่ต้องใช้ทุนสูง และไม่ยุ่งยากมีความเสี่ยงเหมือนการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ นับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ใน จ.ตรัง เลยทีเดียว

เริ่มแรกช่วงเดือน มี.ค. 66 แต่ละบ่อจะปล่อยลูกปูครั้งแรก จำนวน 3,000 ตัว ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงชายฝั่งตรัง สามารถเพาะขยายพันธุ์ลูกปูหน้าขาวได้แล้ว และจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาตัวละ 3 บาท ช่วง 2 เดือนแรก จะให้อาหารเป็นเนื้อปลาสดวันละ 2 มื้อ คือ เช้ากับเย็น 30 กิโลกรัม พอเดือนที่ 3 จะให้เพียง 1 มื้อ 30 กิโลกรัม ผ่านไป 3 เดือน พบว่าปูหน้าขาวตัวผู้มีน้ำหนักตัวละ 5-6 ขีด ส่วนตัวเมียมีน้ำหนักตัวละ 3-4 ขีด มีเนื้อแน่น ก้ามใหญ่ และมีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก

แต่ตนยังไม่ขาย เพราะต้องการทำน้ำหนักปูให้ได้ตัวละ 8 ขีด ถึง 1 กิโลกรัม ซึ่งจะต้องใช้เวลาเลี้ยงอีกประมาณ 45 วัน จึงจะได้น้ำหนักตามที่ตั้งใจก่อนจับขาย ราคาตัวผู้กิโลกรัมละ 350-500 บาท ตัวเมียกิโลกรัมละ 500 บาท หากรีบจับขายตอนปูอายุน้อย เนื้อจะไม่ค่อยเต็ม

“ตนเชื่อมั่นว่า หันมาเลี้ยงปูดีกว่าเพราะไม่เสี่ยง ส่วนตลาดก็ยังกว้าง ดีกว่าเลี้ยงอย่างอื่น เช่น เลี้ยงปลา ตลาดบ้านเรายังไม่ดี สู้ภาคกลางไม่ได้ แต่ถ้าเลี้ยงปู บ้านเราโอเคเลย ส่วนรสชาติหวานดี และนี่คือปูตามโครงการ เป็นปูหน้าขาว ซึ่งตนก็เคยเลี้ยงปูดำมานานแล้ว ถามว่าเลี้ยงปูอยู่ได้มั้ย ตอบว่ามีรายได้เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท อยู่ได้อย่างสบายๆ หลังประสบความสำเร็จ ได้มีเกษตรกรจากหลายอำเภอ เดินทางมาศึกษาดูงานกันเป็นจำนวนมาก ส่วนตลาดรับซื้อก็เปิดกว้าง รอวันที่เกษตรกรจับขายจนแทบจะแย่งกันมาซื้อถึงบ่อ ปูตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัดพริกไทยดำ แกงส้ม นึ่ง เผา หลนปูไข่ ผัดผงกะหรี่ ลวกจิ้มซีฟู้ด และอื่นๆ”

ด้านนายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง กล่าวว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกของ จ.ตรัง เพราะยังไม่เคยมีการเลี้ยงปูหน้าขาวมาก่อน ซึ่งจากการติดตามผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ โดยเกษตรกรเลี้ยงมา 3 เดือน ตัวผู้ได้น้ำหนักประมาณ 5-6 ขีด ตัวเมียประมาณ 3 ขีดกว่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนปูดำทั่วไป ตัวจะเล็กกว่าเมื่อใช้เวลาเลี้ยงเท่ากัน โดยมีน้ำหนักต่างกันครึ่งต่อครึ่ง แต่ปูดำที่เลี้ยงใช้เวลาถึง 6 เดือน โดยในปี 2567 มีเกษตรกรเจ้าของบ่อกุ้งร้างใน จ.ตรัง สนใจเลี้ยงปูหน้าขาวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางรายเลี้ยงแค่ 3 เดือน ก็จับขายได้แล้ว หากเกษตรกรรายใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานประมง จ.ตรัง ได้ทุกวันตามวันเวลาราชการ

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ทรงวุฒิ นาคพล จ.ตรัง
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..