หลังจากได้ คริสเตียโน โรนัลโด ไปสร้างชื่อเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประเทศเศรษฐีน้ำมันยังคงเดินหน้ากระชากซูเปอร์สตาร์เข้าลีกแบบไม่มีพัก เริ่มต้นช่วงซัมเมอร์ด้วย คาริม เบนเซมา ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ย้ายไปร่วมทัพ อัล อิตติฮัด ตามด้วย เอนโกโล กองเต อดีตกองกลางเชลซี ซึ่งรับประกันว่า ก็องเต จะไม่ใช่คนสุดท้ายในตลาดรอบนี้แน่

ยังมี รูเบน เนเวส ของวูล์ฟแฮมป์ตัน, เซคิโอ รามอส ที่หมดสัญญากับปารีสฯ, ฮาคิม ซิเยค, คาลิดู คูลิบาลี, ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง จากเชลซี รวมถึงอีกหลายคนที่มีข่าวโยงกับโอกาสบินไปขุดทองที่ซาอุดิอาระเบีย

มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมประเทศที่ร่ำรวยบ่อน้ำมันถึงมาลงทุนกีฬาอย่างมหาศาล?

ซาอุดิอาระเบีย กำลังมองหาลู่ทางขยายเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมอื่นๆ เพราะที่ผ่านมาพวกเขาพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมัน ซึ่งมันไม่ได้คงอยู่ไปตลอด พวกเขาจึงจำเป็นต้องกระจายเศรษฐกิจของตนให้กว้างขึ้น พวกเขาทำสิ่งนี้ผ่าน PIF ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนความมั่งคั่งของประเทศ

กีฬาเป็นอีกสาขาที่พวกเขาต้องการจะเติบโตในประเทศ รวมถึงฟุตบอลลีกด้วย พวกเขาต้องการสร้างอุตสาหกรรมสันทนาการและความบันเทิงของตนเอง และใช้ประโยชน์จากค่าเฉลี่ยที่ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของชาวอุดีอาระเบียมากกว่า 70% (ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี) อีกทั้งยังมองว่าเป็นการเพิ่มการท่องเที่ยวให้กับประเทศด้วย

ที่จริงมาตรฐานของลีกค่อนข้างสูงอยู่แล้ว แต่พวกเขาต้องการพัฒนาลีกให้เป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นการนำผู้เล่นที่เก่งที่สุดเข้ามาจึงถูกมองว่าเป็นก้าวแรก และทำให้กีฬากลายเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมในประเทศ

ผู้ปกครองของซาอุดีอาระเบียคิดว่าแทนที่จะให้คนอื่นหาเงินจากความสนใจในกีฬาของประชากรของเรา มิสู้เรามาสร้างมันด้วยตัวเองและเก็บเงินไว้ภายในขอบเขตของเรา

นอกจากสร้างลีกให้เข้มแข็ง ซาอุดีอาระเบีย ยังหวังที่จะขยายเครือข่ายไปทั่วโลกด้วยการลงทุนในสโมสรฟุตบอล ด้วยเหตุนี้ PIF จึงซื้อสโมสรนิวคาสเซิล และดึงเอาความเชี่ยวชาญมาพัฒนานักเตะของตนเอง

การเริ่มต้นอคาเดมี่ พัฒนาความสามารถของผู้เล่นเยาวชนซาอุดีอาระเบียก็เป็นเป้าหมายเช่นกัน

นอกจากนี้มันยังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและแสดงอิทธิพลในเวทีโลก โดยเฉพาะการแข่งขันกับคู่แข่งในท้องถิ่นในตะวันออกกลาง อย่างที่ กาตาร์ ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดีอาระเบียต้องการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2030 ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกกับ ฟุตบอลโลกในสามทวีป ในการเสนอตัวร่วมกับกรีซ (ยุโรป) และอียิปต์ (แอฟริกา)

แล้วมันจะยืนยาวอย่างที่หวังหรือไม่?

ชัดเจนว่าเวลานี้จุดเริ่มต้นมีความคล้ายคลึงกับซูเปอร์ลีกของจีน เมื่อหลายปีก่อน เมื่อสตาร์ชาวบราซิลอย่างออสการ์และมาร์โก อาร์เนาโตวิช ย้ายไปตะวันออกไกล

สื่อต่างประเทศเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในจีนเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดี ที่ต้องการให้จีนเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก แต่วันหนึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองในจีนก็เปลี่ยนใจ พวกเขาไม่ชอบที่เงินจำนวนมหาศาลไหลออกจากจีน เข้าสู่ยุโรปและกระเป๋าของชาวต่างชาติ พวกเขาตัดสินใจยุติและวางกฎมากมายเพื่อควบคุมจำนวนผู้เล่นต่างชาติ

เช่นเดียวกับเป้าหมายของซาอุดีอาระเบียในระยะยาว แต่ซาอุดิอาระเบียมีเงินมากกว่า และมีความรู้สึกจริงจังมากกว่า

Sky Sports News อ้างจากแหล่งข่าวที่ได้ยินมาว่าภายใน 5 ปี ซาอุดิอาระเบียต้องการผู้เล่นต่างชาติที่ดีที่สุด 100 คนที่เล่นในลีกของตน

คริสเตียโน โรนัลโดเป็นคนแรก และพยายามดึงลิโอเนล เมสซี ด้วยข้อเสนอมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่เขาปฏิเสธย้ายไป MLS แทน แต่ยังมีอีกหลายคนที่พวกเขาต้องการ

มันจะไม่จบแค่นี้ ซาอุดีอาระเบีย จะมีดีลชนิดโลกตะลึงตามมาอีกแน่ๆ.

เฮียเอง