ชัดเจนกันไปแล้ว…กับปฐมบทการเมืองบทใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น!! จะกลายเป็น “คนเก่า” ในยุคใหม่ หรือเป็น “คนใหม่” ในยุคใหม่ ก็ต้องมารอดูผลของการเจรจาต่อรองหลังจากนี้

ส่วน!! นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรีใหม่ จะเป็นไปตามที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศคาดหวังไว้เพียงใด หรือเป็นไปตาม “สูตร” ที่บรรดา “เซียน” ทำนายทายทักกันไว้หรือไม่? คงต้องใช้เวลาอีกราว ๆ 1-2 เดือน คงได้เห็นหน้าค่าตากันชัดเจน ถ้าทุกอย่าง “สมประโยชน์”

Photo financial investment concept stack of coins for finance investor with  trading graph growth banking

ขณะที่…ในแง่ของคนทำธุรกิจใครจะไป…ใครจะมา ยังไม่สำคัญเท่ากับการเป็นรัฐบาลที่มี “เอกภาพ” เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เดินหน้าได้ต่อไป

ขณะที่…ในแง่ของคนทำธุรกิจใครจะไป…ใครจะมา ยังไม่สำคัญเท่ากับการเป็นรัฐบาลที่มี “เอกภาพ” เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เดินหน้าได้ต่อไป

เช่นเดียวกับเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล หากล่าช้า เพราะบริหารจัดการประโยชน์ไม่ลงตัว ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหา แถมเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบริหารประเทศ เพราะสุดท้าย!! ไม่ใช่เพียงแค่นักธุรกิจเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่เป็นคนไทยทั้งชาติ

ที่สำคัญที่สุด!! คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “การทำตามสัญญา” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารพัดปัญหาปากท้อง ปัญหาการทำมาหากิน ปัญหาค่าแรง ปัญหาไฟแพง และอีกมากมาย

นโยบายที่ขายฝันเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกคะแนนเสียงที่ได้รับไปต่างรอคอย ว่าจะได้รับตามที่ให้สัญญาไว้หรือไม่?

ไม่เพียงแค่…เรื่องของการทำตามสัญญา ตามที่หาเสียงไว้เท่านั้นหรอกนะ เพราะอย่าลืมว่า เวลานี้ โลกยังไม่ปกติ การจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่ามกลางพายุใหญ่ที่ยังไม่สงบ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ท้าทายฝีมือของรัฐบาลใหม่ไม่น้อย

Free photo close up hand typing on calculator

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!! ปัญหาเรื่องของวิกฤติการเงินในสหรัฐ ทั้งเรื่องของสถาบันการเงินในสหรัฐ “ล้ม” ที่ยังทยอยตามมาไม่หยุด แถมยังตามมาด้วยเรื่องของ การเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ ที่จนขณะนี้ยังไม่สามารถเจรจาตกลงขยายเพดานหนี้กันได้

ว่ากันว่า… หากสหรัฐไม่มีการขยายเพดานหนี้ก่อนเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย และทำให้ประชาชน 8 ล้านคนต้องตกงานกันทีเดียว

ขณะเดียวกันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ก็ออกมาระบุว่า หากสหรัฐอเมริกา ผิดนัดชำระหนี้จริง ก็จะส่ง ผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเศรษฐกิจสหรัฐเองและเศรษฐกิจโลก ในภาพรวมด้วย ทั้งยังจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวสูงขึ้น

แม้ว่าเอาเข้าจริง ๆ สุดท้ายการเพิ่มเพดานหนี้จะเกิดขึ้นในห้วงสุดท้ายก่อนถึงวันที่ 1 มิ.ย. นี้ ก็ตาม แต่การออกมาส่งเสียงเตือนก็เขย่าตลาดเงินไปไม่น้อยทีเดียว

ทั้งนี้ หากสหรัฐเกิดการผิดนัดชำระหนี้เข้าจริง ๆ รับรองได้ว่าโลกสะเทือนแน่ เพราะถูกลูกชิ่ง ธุรกิจ นักลงทุน ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ จะต้องแบกรับภาระต้นทุนในเรื่องของดอกเบี้ยแพงขึ้นอีก อันเนื่องมาจากมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐ จะมีมูลค่าลดลง จากเครดิตที่ต่ำลง

Photo businessman doing business analysis

ณ เวลานี้ แบงก์ชาติ ยังย้ำว่า ผลกระทบจากภาคธนาคารในสหรัฐ ที่ส่อพบปัญหาเพิ่ม รวมถึง ปัญหาผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น นั้นมีผล กระทบต่อไทยอย่างจำกัด ขณะที่มองว่าตลาดเงินตลาดทุนยังคงผันผวนต่อ

ขณะที่ “พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research ประเมินว่า การผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐ เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยง

ดังนั้น!! หากมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระขึ้นมาหรือผิดนัดชำระแม้แต่วันเดียว ก็จะสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมหาศาลต่อตลาดบอนด์ ตลาดหุ้น และตลาดเงินโลก แต่โอกาสที่ไปถึงจุดนั้นมีค่อนข้างน้อย

เหตุผลสำคัญ… ก็เพราะเมื่อใกล้ถึงเวลาก็เชื่อว่า สหรัฐก็จะขยายเพดานหนี้เพิ่มขึ้น เพราะต้นทุนความเสียหายต่อเศรษฐกิจในกรณีที่รัฐบาลไม่สามารถกู้ยืมเพิ่มเติมได้นั้นสูงเกินไป

ขณะที่ผลกระทบต่อไทย อาจทำให้ตลาดผันผวน เพราะหากตลาดกังวลมาก จะทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสินทรัพย์ในตลาดไทยด้วย

หรือในกรณีแย่ที่รัฐบาลสหรัฐ ต้องลดการใช้จ่ายหรือหยุดการใช้จ่าย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอย เศรษฐกิจไทยก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ส่วนในกรณีเลวร้ายคือผิดนัดชำระหนี้พันธบัตร เชื่อว่าจะไม่เกิด

ไม่เพียงแค่ปัจจัยเสี่ยงจากสหรัฐเท่านั้น ยังมีปัญหาความขัดแย้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่รบกันมาปีกว่า ที่กลับมามีแนวโน้มรุนแรงหนักขึ้นอีก

ต้องยอมรับว่า “โลก” ยังคงเร่าร้อนจากไฟสงครามและไฟเศรษฐกิจ หนี้สาธารณะทั่วโลกกำลังพุ่งไปแตะที่ 66.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 21% ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วที่สุด

Free photo medium shot depressed man at table

ปัญหาเรื่องของภาคการคลัง กำลังจะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ ท่ามกลางวงเงินงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ก็ต้องมารอดูรอชมฝีมือของรัฐบาลใหม่ ว่าจะรับมือปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”