ซีเกมส์ เป็นมหกรรมกีฬาสำคัญที่สุดของภูมิภาคอาเซียน และหนึ่งในเป้าหมายของซีเกมส์ก็เพื่อนักกีฬาแต่ละชาติจะได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพตัวเองด้วยการแข่งกับชาติอื่นๆ และถ้าพูดให้หล่อๆ ชัยชนะอาจเป็นความสำคัญที่สุดในลำดับท้ายๆ ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามหลายสิบปีที่ผ่านมากลายเป็นว่าเจ้าภาพกลับโฟกัสแค่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองเป็นเจ้าเหรียญทอง ไม่ว่าการยัดกีฬาพื้นบ้านของตัวเองเข้าไปแบบตามใจ หรือถอดกีฬาที่ตนไม่ถนัด รวมถึงบางการตัดสินด้วยกรรมการที่สร้างความกังขา .. ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยากเป็นเจ้าเหรียญทองอะไรกันขนาดนั้น

ล่าสุด “กัมพูชา” ที่เป็นเจ้าภาพหนแรกก็ทำให้ซีเกมส์มันน่าประหลาดขึ้นไปอีกขั้น

เชื่อหรือไม่ว่าซีเกมส์ 14 ครั้งหลังสุด ตั้งแต่ปี 1995 กัมพูชาได้เหรียญทองรวมกันไม่ถึง 40 เหรียญ (อ้างอิง : https://en.wikipedia.org/wiki/Cambodia_at_the_Southeast_Asian_Games) แต่พอเป็นเจ้าภาพหนนี้ ผ่านไปไม่กี่วันกัมพูชาก็กวาดทะลุ 40 เหรียญทองไปเรียบร้อย มันเป็นไปได้หรือที่จู่ๆ นักกีฬาตัวเองจะเก่งขึ้นในไม่กี่ปี?

แน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากการยัดกีฬาท้องถิ่นเข้าไป กัมพูชา ก็ยัง “ยัดนักกีฬาโอนสัญชาติ” เข้ามาเล่นให้กัมพูชา โอเคว่าการโอนสัญชาตินั้นไม่ได้ผิดและมีการทำมานานตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 แต่บางทีมันก็สมควรตั้งคำถามว่า หากโอนกันเป็นจำนวนมาก มันถูกต้องหรือไม่?

Nikkei Asia เคยรายงานตั้งแต่ก่อนพิธีเปิดซีเกมส์ สัมภาษณ์นักกีฬากัมพูชาคนหนึ่งเล่าว่าตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ทางการกดดันให้ช่วยเลือกนักกีฬาจากต่างประเทศโดยสัญญาว่าจะได้รับหนังสือเดินทางกัมพูชาตอบแทน เธอปฏิเสธและเผยว่าทีมของเธอเองก็มีนักกีฬาที่เกิดในต่างประเทศหลายคนโดยไม่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับกัมพูชามาก่อน

และที่กลายเป็นประเด็ดคือบาสเก็ตบอล 3×3 ของกัมพูชา ที่เอาชนะ ฟิลิปปินส์ คว้าเหรียญทอง โดยทีมชายมีผู้เล่นโอนสัญชาติ 3 จาก 4 คน ส่วนทีมหญิงโอนสัญชาติทั้งทีม! แต่ทีมหญิงแพ้รอบรองชนะเลิศ

ทีมบาสกัมพูชาชนะทอง

ดูกันที่ชื่อนามสกุล แบรนดอน พีเตอร์สัน, ดาร์รินเรย์ ดอร์ซีย์, ซายีด อัลคาเบีย พริดเจตต์ ก็ไม่รู้ว่ามีความเป็นกัมพูชาตรงไหน กัมพูชาแท้คนเดียวคือ เทพ โชราธ

ยังมีไตรกีฬา คิม มังโกรบัง นักไตรกีฬาของฟิลิปปินส์ อดเป็นแชมป์ 4 สมัยติด หลังแพ้ มาร์กอน การาเบเดียน นักกีฬากัมพูชาที่โอนสัญชาติจากฝรั่งเศส ส่วนกีฬาคริกเก็ตที่นักกีฬาชายอินเดีย เอ๊ย กัมพูชา เอาชนะ มาเลเซีย ในรอบชิงชนะเลิศ MEN T50

ทีมคริกเก็ตอินเดีย เอ๊ย กัมพูชา

สื่อ spin.ph ของเมืองตากาล็อคบอกว่าแฟนฟิลิปปินส์นั้นเซ็งมาก เพราะบาสเก็ตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุด ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาเก่งบาสเก็ตบอลมากที่สุดในอาเซียน อัลมอนด์ โวโซทรอส ผู้เล่นฟิลิปปินส์ ปลอบเพื่อนว่าเชิดหน้าเข้าไว้ ทุกคนรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนกัมพูชา และคลิปนี้ก็เป็นไวรัลทั่วฟิลิปปินส์

ขณะที่เฮดโค้ชทีมหญิงเวียดนาม บอกว่าประหลาดใจกับสิ่งที่กัมพูชาทำ ในทางเทคนิคถือว่าปฏิบัติตามกฎและแนวทางปฏิบัติ แต่สำหรับอนาคตของซีเกมส์ สถานการณ์แบบนี้ต้องได้รับการแก้ไข

ทีมบาสหญิงโอนทั้งทีม

มาที่ โจชัว โบ นอง นักยัดห่วงคนกัมพูชาแท้ๆ เกิดในกัมพูชา เล่นในระดับไฮสคูลที่สหรัฐ โพสต์โซเชียลผิดหวังว่า ตนพยายามขอมีส่วนร่วม จะให้เป็นเด็กยกน้ำในทีมก็ยังได้แต่โดนปฏิเสธ และการดูนักกีฬาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกัมพูชา หรือมีความภูมิใจของการเป็นคนกัมพูชา เป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดและน่าผิดหวังมาก

ที่จริงแล้วกฎของสหพันธ์ยัดห่วงโลกอนุญาตให้มีผู้เล่นโอนสัญชาติแค่คนเดียวและต้องมีพาสปอร์ตชาตินั้นๆ ก่อนอายุ 16 แต่เงื่อนไขของซีเกมส์พิจารณาแค่ขอให้มีพาสปอร์ต ไม่คำนึงว่าจะได้รับมาตอนไหน

โบ นอง กล่าวอีกว่า “กัมพูชาต้องการความสำเร็จในทันที แต่พวกเขาต้องเข้าใจถึงความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของชาวกัมพูชาทั่วโลก ความพ่ายแพ้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ การชนะโดยปราศจากความซื่อสัตย์ไม่ใช่การชนะ ผมรู้สึกละอายใจในฐานะชาวกัมพูชา”

เห็นด้วยตามนั้นว่าความสำเร็จไม่ใช่ทุกอย่าง ยิ่งกับความสำเร็จแค่ชั่วคราว มิสู้ค่อยๆ พัฒนาก็ยังดีกว่าชนะแบบนี้ มันน่าภาคภูมิใจหรือไม่ ทุกคนน่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว.

เฮียเอง