ในปี 2014 ผู้กำกับชื่อดัง “เจมส์ กันน์” ได้ทำหนังจากหนังสือการ์ตูนมาร์เวลคอมิกส์ เรื่อง Guardians of the Galaxy (ชื่อไทย รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล) โดยจับเอาตัวละครต่างสายพันธุ์ มาบอกเล่าเรื่องราวความเกรียน ความวายป่วง ทั้งที่ต้องออกผจญภัยเสี่ยงตายในอวกาศ แต่กลับเกิดมิตรภาพของผองเพื่อน เชื่อมโยงกันราวกับเป็นครอบครัว ร่วมกันต่อสู้กับเหล่าวายร้าย จากทุนสร้างเพียง 195 ล้านดอลลาร์ สามารถกวาดรายได้ไปถึง 773 ล้านดอลลาร์ในภาคแรก และในปี 2017 ก็ยังสานต่อเรื่องราวสุดเกรียนใน Guardians of the Galaxy Vol.2 ด้วยต้นทุนหนัง 200 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะกวาดเงินไปได้อีก 863 ล้านดอลลาร์ นับเป็นความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ หนังทำเหล่าดาราตัวละครถูกกล่าวถึงอย่างหนาหู มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร กลายเป็นขวัญใจคอหนังแนวแอคชั่นฮีโร่แบบไม่เคยมีมาก่อน…
แต่แล้ว…กระแสข่าวการทำหนังต่อภาค 3 ของ “เจมส์ กันน์” ต้องปิดตาย!!! หลังจากเขาถูกบริหารของ วอลต์ ดิสนีย์ ขวางทางไม่ให้เป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้อีก เนื่องจากไม่พอใจเรื่องราวในอดีตของผู้กำกับชื่อดัง ที่ไปทวิจเตอร์เกรียนในโลกออนไลน์ ท้ายที่สุด “เจมส์ กันน์” ได้พิสูจน์ฝีมือในการกำกับหนังของค่าย DC ที่อยู่ขั้วตรงข้ามผุดเอา เดอะ ซุยไซด์ สควอด (The Suicide Squad) หรือ “ทีมพลีชีพมหาวายร้าย” แอนตี้ฮีโร่ที่โชว์ความเกรียนความเก่า ไม่ต่างกับ Guardians of the Galaxy พร้อมซีรีส์ดัง “PEACEMAKER” ที่มีตัวเอกอย่าง จอห์น ซีนา ลงสตรีมมิ่ง จนกลายเป็นที่กล่าวขวัญของคนทั่วโลก สุดท้ายเขาก็ได้รับโอกาสให้กลับมาสานต่อเรื่องราวของ Guardians of the Galaxy Vol.3 นี้อีกครั้ง
เรื่องย่อ Guardians of the Galaxy 1 “ปีเตอร์ ควิลล์” หรือ “สตาร์-ลอร์ด” (รับบทโดย คริส แพร็ตต์) ลูกครึ่งเอเลี่ยนกับมนุษย์ พร้อมกลุ่มผองเพื่อนชาวต่างดาว ได้แก่ “ร็อคเก็ต” (รับบทโดย แบรดลีย์ คูเปอร์) แรคคูนที่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรมจนมีลักษณะนิสัยเหมือนมนุษย์, “กรู๊ท” (รับบทโดย วิน ดีเซล) มนุษย์ต้นไม้ที่เป็นคู่หูกับร็อคเก็ต, “แดร็กซ์” (รับบทโดย เดฟ บาทิสตา) นักรบที่มีความแค้นกับ สมุนของธานอส ที่ยกพวกไปฆ่าครอบครัวของเขา และ “กาโมร่า” (รับบทโดย โซอี ซัลดานา) สาวต่างดาวที่ “ธานอส” (รับบทโดย จอช โบรลิน) รับเลี้ยงดูเป็นบุตรีบุญธรรม พวกเขาร่วมกันต่อสู้กับ “โรแนน” (รับบทโดย ลี เพซ) หนึ่งในสมุนของธานอส จนได้รับชัยชนะ ก่อนจะนำเอา The Orb หรือ THE POWER STONE มาส่งมอบให้กับ “โนวา คอร์ป” เก็บรักษาเอาไว้
เรื่องย่อ Guardians of the Galaxy Vol.2 “อีโก้” (รับบทโดย เคิร์ต รัสเซลล์) พ่อของ “ปีเตอร์ ควิลล์” เขาเป็นดาวเคราะห์ที่มีชีวิต มีพลังระดับจักรวาลใกล้เคียงกับของ “ดอร์มัมมู” เจ้าแห่งมิติมืดใน Doctor Strange หลายปีที่เขาได้ส่งร่างแยกมายังโลกมนุษย์ และดาวอื่น ๆ เพื่อสืบสายพันธุ์ให้ลูกของเขาเติบโต จากนั้นก็เรียกตัวลูก ๆ กลับมาที่ดาวของเขา เพื่อดึงเอาพลังมาใช้ประโยชน์ แน่นอนว่า “ปีเตอร์ ควิลล์” ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะกลุ่มผองเพื่อนสุดเกรียนช่วยเหลือ “ปีเตอร์” ให้รอดตายออกมาได้ก่อน พร้อมกับทำลายแกนกลางพลังของดาวเพื่อหลบหนี
และแม้ว่าเหล่าแก๊งเกรียนจะรอดตาย แต่สุดท้ายก็ต้องแลกกับชีวิตของ “ยอนดู อูดอนต้า” (รับบทโดย ไมเคิล รูกเกอร์) หัวหน้าสลัดอวกาศที่รับเลี้ยง “ปีเตอร์” ราวกับลูกชาย อย่างไรก็ตามภาคนี้ “ปีเตอร์” ยังได้พบกับ “แมนทิส” (รับบทโดย ปอม เกลม็องตีแย็ฟ) น้องสาวคนละแม่ เธอเป็นสาวต่างดาวผู้มีพลังจิตดูความทรงจำในอดีต สามารถสะกดจิต ลบความทรงจำ พร้อมหมัดเด็ด กล่อมให้หลับ เข้ามารวมอยู่ในแก๊งเกรียนนี้ด้วยกัน..
เรื่องย่อ Part สำคัญของ Guardians of the Galaxy ใน Avengers : Endgame ช่วงหนึ่งที่ “กาโมร่า” ได้ถูก “ธานอส” จับโยนลงเหวเพื่อสังเวยชีวิตแลกกับ อัญมณีสีส้ม หรือ THE SOUL STONE นั่นจึงทำให้ “ปีเตอร์” รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เช่นเดียวกันกับชะตากรรมของ “เนบิวลา” (รับบทโดย คาเรน กิลแลน) ลูกสาวบุญธรรมอีกคน “ธานอส” ที่กลับใจมาร่วมอยู่ในกลุ่มของ “ปีเตอร์” เพราะอยากจะอยู่กับ “กาโมร่า” แบบพี่สาว-น้องสาว
เธอได้อาสาเข้าไปชิงเอาอัญมณี THE POWER STONE จากไทม์ไลน์ในอดีต แต่กลับพลาดท่าถูกฝ่าย “ธานอส” จับกุมสลับเปลี่ยนตัวโดยให้ “เนบิวลา” (ตัวร้าย) จากไทม์ไลน์ในอดีต วาร์ปกลับมายังไทม์ไลน์ปัจจุบัน ก่อนจะเปิดระบบเคลื่อนย้ายยานอวกาศของ “ธานอส” มายังโลกเพื่อสู้กับเหล่าฮีโร่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า “กาโมร่า” จากไทม์ไลน์ในอดีต ก็อยู่ในยานลำดังกล่าวด้วย
และเมื่อ “ไอรอนแมน” (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) แย่งเอาอัญมณีมาใช้พลังบลิฟ (ดีดนิ้ว) จนฝาย “ธานอส” และสมุนกลายเป็นฝุ่นผงเอาชนะศึกใหญ่ได้สำเร็จ แต่ “กาโมร่า” จากไทม์ไลน์อดีต ก็ไม่ได้หายไปด้วยแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะเธอไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับ “ธานอส” ตั้งแต่แรก เธอให้ความช่วยเหลือ “เนบิวลา” ในไทม์ไลน์ปัจจุบัน ก่อนจะหายตัวไปรวมกับกลุ่มของ “สตาคาร์” (รับบทโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน) หัวหน้ากลุ่ม “ราเวนเจอร์” ที่เคยปรากฏตัวมาแล้วในตอนจบของ Guardians of the Galaxy Vol.2
เรื่องย่อ Guardians of the Galaxy Vol.3 “ไฮ เรฟโวลูชันนารี” (รับบทโดย ชุควูดี อิวูจิ) นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นการดัดแปลงสัตว์ให้มีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ บงการให้ “สังฆราชินี อายีชา” (รับบทโดย เอลิซาเบธ เดบิคกี้) ผู้นำสูงสุดของอาณาจักรซอฟเวอเรน และ “อดัม วอร์ล็อก” (รับบทโดย วิลล์ พัลเตอร์) ไปชิงตัว “ร็อคเก็ต” มาจากแก๊งเกรียน เพราะเขาต้องการมันสมองของเจ้าแรคคูนที่ชาญฉลาด เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เอามาทำโคลนต้นแบบผลิตสิ่งมีชีวิตรุ่นใหม่
แต่เพราะ “อดัม” ใช้พลังมากเกินไป ทำให้เจ้าแรคคูนปากแจ๋ว บาดเจ็บสาหัสปางตาย เหล่าผองเพื่อนจึงต้องหาทางช่วยเหลือ ด้วยการบุกไปหานักวิทยาศาสตร์ที่รู้จักต้นกำเนิดของ “ร็อคเก็ต” เพื่อฟื้นฟูพลังของเขากลับมาเหมือนเดิม การไปช่วยเพื่อนครั้งนี้ “เนบิวลา” ได้ขอร้องให้ “กาโมร่า” กลับเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย พวกเขาจะช่วยเหลือ “ร็อคเก็ต” ให้กลับมามีชีวิตดังเดิมได้หรือไม่ ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น…
จุดแข็งของ Guardians of the Galaxy Vol.3
ว่ากันว่า…เรื่องนี้มีตัวละครที่เป็นลูกรักของ “เจมส์ กันน์” อยู่นั่น ก็คือเจ้าแรคคูน “ร็อคเก็ต” ทั้งที่ตัวเขาผู้กำกับชื่อดังไปทำงานให้กับฝั่ง DC แต่ก็ยังอยากปิดฉากแก๊งเกรียนให้ค่าย Marvel ก่อน ที่ผ่านมา “เจ้าแรกคูน” เป็นไม้ตายในการเอาชนะวายร้ายหลายครั้ง แต่กลับไม่มีเรื่องราวของเขาปรากฏเด่นชัด ดังนั้นในภาคนี้จึงถือเป็นภาคสุดท้ายที่ “เจมส์ กันน์” ต้องการเสนอเรื่องราวของลูกรัก พร้อมกับการปิดฉากแก๊งเกรียน…เพื่อเอาใจคอหนังทั่วโลก
และถึงแม้บทตัวละครภาคนี้ จะยังไว้ซึ่งความเกรียน…แบบไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความซาบซึ้งใจของมิตรภาพ มิติตัวละครจะมีความหลากหลาย แต่กลับมีชีวิตชีวาน่าสนใจ ที่ต้องชมหนัก ๆ เลยก็คือ การใช้ CF ระดับคุณภาพ จนได้ฉากแอ๊คชั่นเดือด ๆ ชนิดแทบหยุดหายใจ ซีน Long Take สวย ๆ ในมุมมองที่แตกต่าง ไม่เว้นแม้แต่พาร์ทการเดินทางในอวกาศธรรมดา ก็ยังจับสีสันมาใส่ให้แปลกตา เรื่องนี้คอหนังสายฮา สายฮีโร่ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
จุดอ่อน Guardians of the Galaxy Vol.3
คนที่ไม่เคยดูภาค 1-2 หรือ Avengers : Endgame มาก่อน รับประกันได้เลยว่าดูไม่ค่อยสนุกแน่นอน สมควรอย่างยิ่งที่ต้องทำการบ้านก่อนมาดู พาร์ทหนังในส่วนของเรื่องของ “ร็อคเก็ต” ดูแล้วมีความหดหู่ใจหนักมาก! คนรักสัตว์ หรือ จิตใจอ่อนไหว คงไม่โอเคแน่นอน ท้ายที่สุดคงไม่พ้นปัญหาเดิม การขยี้ดราม่าให้น้ำตาไหล ยังมีความไม่สุดหลายช่วงตอน
5/5 กะโหลก หากจะบอกว่านี่คือหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ดูแล้วสนุกครบทุกรสชาติ แม้จะไม่ได้ถึงกับสมบูรณ์แบบเหมือน Avengers : Endgame แต่หากได้ดูแล้ว 1 รอบ ก็ยังอยากกลับไปดูใหม่อีกรอบอยู่ดี “เจมส์ กันน์” ได้ถ่ายทอดช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงเอาไว้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หนังทั้ง 3 ภาค บรรลุจุดประสงค์ของคำว่า “…การมีเพื่อน…เป็นอะไรที่ดีจริงๆ…”
——————————————–
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Marvel Entertainment
