สาวกศิลปินสาว Billie Eilish (บิลลี่ ไอลิช) เตรียมตัวให้พร้อม กับประสบการณ์ฟิล์มคอนเสิร์ตของเธอในภาพยนตร์ “Happier Than Ever: A Love Letter to Los Angeles” จาก “ดิสนีย์พลัส ออริจินัล” ซึ่งถ่ายทำที่ฮอลลีวูดโบวล์ ร่วมกับ กุสตาโว ดูดาเมล และวงลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิก นำเสนอ 16 เพลงจากอัลบั้มชุดใหม่ของ Billie Eilish กับการแสดงโดยเรียงตามลำดับเพลงในอัลบั้มครั้งแรกและครั้งเดียว กำกับโดย โรเบิร์ต รอดริเกซ และ แพทริค ออสบอร์น
สำหรับ บิลลี่ ไอลิช เป็นศิลปินเจ้าของรางวัลแกรมมี่ผู้มีเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย เธอจะมาปรากฏตัวทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์เป็นครั้งแรก ใน “Happier Than Ever: A Love Letter to Los Angeles” ภาพยนตร์ในรูปแบบฟิล์มคอนเสิร์ต พร้อมเพลงจากอัลบั้มชุดใหม่ของบิลลี่ ไอลิชที่ชื่อ “Happier Than Ever” ซึ่งจะถูกนำเสนอออกมาผ่านการแสดงสุดใกล้ชิดของทุกเพลงที่เธอจะร้องโดยเรียงไปตามลำดับเพลงในอัลบั้มเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจากเวทีระดับตำนานอย่างฮอลลีวูดโบวล์
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย โรเบิร์ต รอดริเกซ และผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ แพทริค ออสบอร์น โดยในภาพยนตร์จะมีบางส่วนที่ถูกนำเสนอด้วยภาพแอนิเมชั่น เพื่อพาผู้ชมเดินทางผ่านจินตนาการย้อนกลับไปยังบ้านเกิดของบิลลี่ในลอสแอนเจลิสกับฉากหลังระดับไอคอน ในภาพยนตร์เรื่อง “Happier Than Ever: A Love Letter to Los Angeles” ยังมาพร้อมการปรากฏตัวของ FINNEAS โปรดิวเซอร์และพี่ชายของ บิลลี่ วงคอรัสเด็กของลอสแอนเจลิส และวงลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิก กำกับวงโดยผู้อำนวยการดนตรีและศิลปะ กุสตาโว ดูดาเมล พร้อมด้วยมือกีตาร์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกชาวบราซิล โรเมโร ลูบามโบ โดยมี เดวิด แคมพ์เบลล์ เป็นผู้เรียบเรียงออร์เคสตรา “Happier than Ever: A Love Letter to Los Angeles” โปรดิวซ์โดย Interscope Films และ Darkroom Productions ร่วมด้วย Nexus Studios และ Aron Levine Productions โดยมี เคอร์รี แอสมัสเซน เป็นผู้อำนวยการการแสดงคอนเสิร์ตแบบสด และ พาโบล เบอร์รอน เป็นผู้กำกับภาพ
“ดิสนีย์เป็นแบรนด์ระดับไอคอน การได้ทำงานร่วมกับดิสนีย์จึงเป็นอะไรที่เป็นเกียรติอย่างมากจริงๆ การได้เปิดตัวอัลบั้มใหม่ด้วยวิธีนี้ พร้อมทั้งได้อุทิศผลงานชิ้นนี้ให้กับเมืองที่ฉันรักและเติบโตมาเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ฉันหวังว่าทุกคนจะชอบกัน” บิลลี่ ไอลิช เผย
โรเบิร์ต รอดริเกซ ผู้กำกับ “Happier Than Ever: A Love Letter to Los Angeles” กล่าวต่อว่า “ครอบครัวผมเป็นแฟนตัวจริงของทั้งบิลลี่และฟินนิแอส พวกเขาน่าประทับใจมาก เป็นคนที่มีพรสวรรค์ระดับโลก เพราะฉะนั้นผมถือว่าเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ทำงานกับพวกเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ การบอกเล่าเรื่องราวโดยผสมผสานระหว่างการถ่ายทำจริงและการใช้ภาพแอนิเมชั่นที่สอดประสานเข้าด้วยกันผ่านการแสดงคอนเสิร์ตนั้นยอดเยี่ยมมาก และทำให้หนังกลายเป็นอีเวนต์ที่น่าตื่นตาและแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเลย”
ด้าน ไมเคิล พอลล์ ประธานบริหาร ดิสนีย์พลัส และอีเอสพีเอ็นพลัส บอกว่า “บิลลี่มีแฟนเพลงมากมายทั่วโลกที่ชื่นชอบในน้ำเสียงที่นุ่มลึกและเนื้อเพลงที่ดิบและจริงใจของเธอ และเรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอประสบการณ์ฟิล์มคอนเสิร์ตในรูปแบบที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใครครั้งนี้ผ่านทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์” ขณะที่ แกรี่ มาร์ช ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิสนีย์ แบรนด์เด็ด เทเลวิชัน ว่า “พัฒนาการด้านดนตรีของบิลลี่ และวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นที่นำไปสู่การสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในศิลปินและนักเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ของคนในเจเนอเรชันนี้ เธอรังสรรค์ประสบการณ์การแสดงคอนเสิร์ตได้อย่างโดดเด่นไม่เหมือนใครจริงๆ”
ในช่วงเวลาที่ผู้ชนะรางวัลแกรมมี่มากถึง 7 รางวัลอย่าง บิลลี่ ไอลิช กำลังเตรียมเปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 2 ที่หลายคนรอคอยซึ่งเธอใช้ชื่อว่า “Happier than Ever” ในวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา นักร้องชาวลอสแอนเจลิสที่อายุเพียง 19 ปีคนนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีผลงานออกมาในศตวรรษที่ 21 ด้วย อัลบั้มชุดแรกของเธอที่ใช้ชื่อว่า “WHEN WE ALL FALL ASLEEP, WHERE DO WE GO?” สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดตัวในอันดับที่ 1 ของชาร์ต Billboard 200 ในสหรัฐฯ รวมถึงในอีก 17 ประเทศทั่วโลก และยังได้กลายเป็นอัลบั้มที่ถูกสตรีมมากที่สุดในช่วงเวลาที่อัลบั้มนี้เปิดตัวออกมาในปี 2019
หลังจากนั้น เธอยังก้าวไปสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและชนะรางวัลแกรมมี่ในสาขาสำคัญๆ ทุกสาขาในการประกาศรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 62 เธอยังได้รับรางวัล Record of the Year จากเพลง “everything i wanted” และรางวัล Best Song Written For Visual Media จากเพลง “No Time To Die” ในการประกาศรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 63 ด้วย อัลบั้มชุดใหม่ของบิลลี่ ไอลิชที่ชื่อ “Happier Than Ever” เขียนขึ้นโดยบิลลี่และ FINNEAS พี่ชายของเธอ ซึ่งทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้มนี้ด้วย
ในส่วนผู้เขียนบทและผู้กำกับ โรเบิร์ต รอดริเกซ เคยกำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่าง “Desperado” และ “From Dusk Til Dawn” ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่โรเบิร์ตกำกับยังได้แก่ “Sin City,” “Alita Battle Angel,” “We Can Be Heroes,” และภาพยนตร์ชุด “Spy Kids” ซึ่งทั้งหมดมี Troublemaker Studios ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ที่เขาเป็นเจ้าของทำหน้าที่อำนวยการสร้าง
ด้าน แพทริค ออสบอร์น เป็นทั้งแอนิเมเตอร์ นักเขียนบท และผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ในปี 2014 เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องสั้นยอดเยี่ยมจากเรื่อง “Feast” ซึ่งเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ต่อมาในปี 2017 เขามีผลงานสุดสร้างสรรค์ที่ได้รับรางวัลเอ็มมี่และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เรื่อง “VR short Pearl” เขาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับแอนิเมชั่นสำหรับซีรีส์ตลกของสถานี ABC เรื่อง “Imaginary Mary” ก่อนหน้านั้น ออสบอร์นเคยเป็นแอนิเมเตอร์ให้กับภาพยนตร์ เช่น “Wreck-It-Ralph” และ “Bolt” ของวอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ
ภายใต้การกำกับวงของผู้อำนวยการดนตรีและศิลปะ กุสตาโว ดูดาเมล วงลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิกนำเสนอทั้งการแสดงสด การทำงานด้านสื่อแบบใหม่ๆ และโปรแกรมการเรียนรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในลอสแองเจลิสและที่อื่นๆ การแสดงออร์เคสตราของวงลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิกเป็นรากฐานหลักในการทำงานของวงในอีกหลากหลายด้าน โดยเฉพาะโปรแกรมการนำเสนอหลากประเภทและหลายสหสาขาวิชาชีพ และโปรแกรมการพัฒนาเยาวชน เช่น YOLA (Youth Orchestra Los Angeles) การแสดงของวงมักจะแสดงบนเวทีประวัติศาสตร์ 3 แห่ง ได้แก่ วอลท์ ดิสนีย์ คอนเสิร์ต ฮอลล์, ฮอลลีวูด โบวล์ และ เดอะ ฟอร์ด ตลอดจนผ่านแพลตฟอร์มสื่อที่หลากหลาย ทั้งนี้ วงลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิกมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้ชมและชุมชนผ่านการนำเสนอประสบการณ์ดนตรี ศิลปะ และการเรียนรู้ที่สะท้อนสิ่งที่มีอยู่ในโลกของเราในปัจจุบัน
มาเตรียมรับประสบการณ์สุดพิเศษจาก Billie Eilish ใน “HAPPIER THAN EVER: A LOVE LETTER TO LOS ANGELES” พรีเมียร์พร้อมกันทั่วโลกวันศุกร์ที่ 3 กันยายนนี้ ที่ “ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์” ติดตามอัพเดทข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ยูทูปช่อง Dailynews Live-TH และเฟสบุ้ค Dailynews รวมทั้งทุกแพลตฟอร์มของ “เดลินิวส์”