ที่จะมีการดำเนินการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)  โดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข อธิบายว่า ทางรพ.ปลวกแดง จะให้เอกชนเช่าพื้นที่ 30 ไร่ ระยะเวลา 50 ปี เพื่อจัดทำโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 200 เตียง รองรับประชาชนในพื้นที่กว่า 2 แสนคน และประชากรแฝงอีกราวๆ 1 แสนคน โดยเฉพาะผู้ประกันตนจะได้ไม่ต้องส่งต่อ หรือไปรพ.ที่ไกลออกไป

ขณะนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการยกระดับ รพ.ปลวกแดง 2 ให้มีศักยภาพเป็น รพ.ทั่วไปขนาดเล็ก (M1) และมีมาตรฐาน รพ.คู่สัญญาของประกันสังคมแล้ว โดยมีปลัด สธ.เป็นประธาน ผู้แทนจาก สธ. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน (TOR) ก่อนประกาศเชิญชวน พร้อมคัดเลือกเอกชน เจรจา และจัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก โดยหากเป็นไปได้ คือให้คณะกรรมการดำเนินการทั้ง 2 เรื่องไปพร้อมๆ กันเลย เพื่อเป็นการประหยัดเวลา โดยรับทราบเบื้องต้นว่ามีเอกชนหลายรายที่ให้ความสนใจ   

สำหรับการก่อสร้างอาคารหลังแรกของ รพ.ปลวกแดง 2 สธ.ได้รับงบผูกพัน 2 ปี จำนวน 230 ล้านบาทในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นแบบก่อสร้างของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เหมือน รพ.ทั่วไป ที่จะมีห้องไอซียูจำนวนมาก แต่จากการที่คณะกรรมการอีอีซีได้มีการปรึกษาหารือกับทางเอกชน จะต้องมีการปรับแก้ไขแบบ เพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการของภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุน เน้นรองรับอุบัติเหตุฉุกเฉินเป็น ER OPD ขนาดใหญ่ ที่รองรับคนได้จำนวนมาก มีความทันสมัย และคำนึงถึงการใช้พื้นที่พาณิชย์ต่าง ๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้

“ตึกแรกก็จะเน้นไปที่อุบัติเหตุผู้ป่วยนอก ส่วนไอซียู ผู้ป่วยใน หรือการรักษาโรคซับซ้อนมากขึ้น ก็อาจจะเน้นไปในตึก 2-3 ที่จะก่อสร้างตามมา ซึ่งทางเอกชนที่จะเสนอเข้าร่วมประมูลก็จะต้องมีการเสนอรูปแบบบริหารจัดการงานบริการทั้ง 3 อาคารเข้ามา รวมถึงค่าเช่าอัตราที่จะต้องแบ่งปันให้กับรัฐ ซึ่งเรามีตัวเลขขั้นต่ำคือ 567 ล้านบาท หากรายใดให้สูงกว่า คุณสมบัติครบถ้วน ก็จะพิจารณาให้ชนะโครงการ” 

นายสาธิตย้ำว่า รพ.ปลวกแดง 2 เมื่อเปิดเต็มศักยภาพ จะมีความคุ้มค่าอย่างมาก เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการที่มีเอกชนมาลงทุน ได้สถานพยาบาลที่ทันสมัย ช่วยรักษาคนในพื้นที่ ทั้งสิทธิประกันสังคมและหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมมี 4 แสนคน มีสิทธิประกันสังคม 2 แสนสิทธิ ซึ่งจะต้องเดินทางข้ามจังหวัดไปใช้บริการที่ รพ.ชลบุรี หรือไป รพ.ระยอง ทำให้ลดการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย และลดความแออัดของ รพ.ทั้ง 2 แห่ง

นอกจากนี้ เราตั้งเป้าหมายให้เป็นศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์ป้องกัน ซึ่งจะมี รพ. มาบตาพุดเป็นพี่เลี้ยง ช่วยรับมือกับโรคจากการทำงาน ส่วนอุบัติเหตุโรงงานอุตสหากรรม ไฟไหม้ สารพิษรั่วต่าง ๆ นั้นจะมี รพ.ระยองเป็นหน่วยหลักในการดูแลอยู่แล้ว นอกจากนี้ จะเชื่อมโยงกับซิลิคอนวัลเลย์ที่วังจันทร์ ซึ่งบริเวณนั้นมี รพ.วังจันทร์เป็น รพ.ชุมชนเล็ก ๆ ซึ่ง รพ. ปลวกแดง 2 อยู่ไม่ไกล 30 กิโลเมตรก็จะเชื่อมโยงกับ รพ.วังจันทร์ในการรับดูแลรักษาด้วย ไม่ต้องออกนอกจังหวัด

และหาก “รพ.ปลวกแดง 2” ประสบความสำเร็จก็จะเป็นโมเดลต้นแบบทำโครงการ  PPP ในพื้นที่อื่น ๆ ของ สธ.ที่ไม่ต้องผ่านช่องทาง EEC เพราะเกิดขึ้นจริงแล้วก็จะพิจารณาได้ง่าย.

อภิวรรณ เสาเวียง