เชื่อว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แฟนกีฬาทั้งประเทศคงตั้งตาจดจ่ออยู่หน้าจอ พีพีทีวี เอชดี กันอย่างพร้อมเพรียง

ด้วยความที่ศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ซึ่งดวลวงสวิงในบ้านเราเป็นครั้งที่ 14 เข้าให้แล้วนั้น ยังไม่เคยมีนักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์ให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ชื่นใจเสียที ใกล้เคียงที่สุดก็แค่ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ที่ได้รองแชมป์เมื่อปี 2013 และ 2018 ตามลำดับ

แต่มาถึงปีนี้ ความหวังของแฟนกอล์ฟชาวไทยมีมากขึ้น เพราะนอกจากเจ้าเก่าอย่าง “โปรโม-โปรเม” แล้ว เรายังมีคนที่กำลังเข้าฟอร์มอย่าง “โปรเหมียว” หรือ “แพตตี” ปภังกร ธวัชธนกิจ เจ้าของแชมป์เมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน หมาด ๆ รวมถึง “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยมหัศจรรย์วัย 18 ปีเป็นกำลังเสริมชั้นดี

ปภังกร ธวัชธนกิจ

                                                                              

ซึ่งผลที่ออกมาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง ทั้ง ปภังกร และ อาฒยา จองพื้นที่บนสุดของลีดเดอร์บอร์ดมาตลอด 3 รอบแรก กระทั่งออกสตาร์ตรอบสุดท้ายโดยที่ “โปรเหมียว” นำเดี่ยว “โปรจีน” รั้งอันดับ 2 แถม “โปรเม” ก็อยู่ในวิสัยลุ้นแชมป์ด้วย 

ในรอบสุดท้าย ปรากฏว่า “แพตตี” หลุดวงโคจรหลังออกดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 12 พาร์ 3 เป็นโอกาสให้ “โปรจีน” แซงขึ้นนำ

อาฒยา ฐิติกุล 

                                                                                

แต่ขณะเดียวกัน คนที่แรงขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมกลายเป็น “โปรเม” ที่รอบสุดท้ายเล่นแบบไร้ที่ติ โดยเฉพาะช็อต 2 ที่หลุม 18 พาร์ 5 ที่เธอซัดเต็มเหนี่ยวขึ้นไปออนแบบสุดยอดนั้นยังคงติดตา แม้สุดท้าย “โปรเม” จะได้แค่เบอร์ดี้ แต่ก็เพียงพอที่จะขยับสกอร์ขึ้นไปเป็นผู้นำเดี่ยวในคลับเฮาส์ 

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ลุ้นแชมป์ก็พลิกผันเมื่อ “โปรจีน” ที่เล่นในก๊วนตามหลัง ดันออกโบกี้ที่หลุม 17 กลายเป็นว่าเมื่อสาวน้อยจาก อ.บ้านโป่ง เดินขึ้นแท่นทีออฟหลุมสุดท้าย เธอกลับตกเป็นฝ่ายตามหลัง และต้องการเบอร์ดี้เพื่อเพลย์ออฟ 

เป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นสุด ๆ สำหรับเด็กสาววัย 18 ปี ที่กำลังเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตก็ว่าได้…

กระนั้น “โปรจีน” ก็แสดงให้เห็นถึง “หัวใจ” ที่มั่นคงเกินอายุ เธอให้โอกาสตัวเองได้พัตเบอร์ดี้จากระยะราว 1 คันธง แต่สุดท้ายหลุดปากหลุมไปนิดเดียว ส่งผลให้ “โปรเม” กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปในทันที 

ภาพที่เราเห็นคืแ เอรียา หลั่งน้ำตาแห่งความปิติ เพราะแน่นอนว่าแชมป์รายการนี้มีความหมาย ไม่ใช่แค่การได้แชมป์บนแผ่นดินเกิด แต่นี่อาจเป็นการปลดล็อคปมในใจ หลังเธอเคยพลาดแชมป์แบบน่าเจ็บใจมาแล้วเมื่อ 8 ปีก่อน

หลายคนอาจจะวิจารณ์ว่า เอรียา มือตก หมดไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่จากผลงานที่ดูไม่เปรี้ยงเท่าที่ควรในปีนี้ แต่แชมป์นี้ก็พิสูจน์ทุกอย่างแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างที่ใคร ๆ วิจารณ์กันอย่างสนุกปากนั่นเลย… 

เอรียา จุฑานุกาล 

                                                                          

ส่วน “โปรจีน” นั้น น่าเสียดายที่เธอชวด “เดินทางลัด” ได้ทัวร์การ์ดไปเล่นใน แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 ปีโดยไม่ต้องคัดเลือก 

แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาอย่างมหาศาลจากการพลาดแชมป์ครั้งนี้คือประสบการณ์ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ประสบการณ์ในแบบที่ เอรียา เคยเจอมาแล้ว จากนี้ไปเชื่อว่ากระดูกของ “โปรจีน” น่าจะแข็งขึ้นอีกหลายเบอร์ ส่วนฝีมือนั้นมีอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเสริมแคลเซียมเข้าไป เชื่อว่ามีโอกาสเมื่อไหร่ สาวน้อยคนนี้จะทำให้วงการกอล์ฟหญิงของโลกสะเทือนได้ไม่แพ้รุ่นพี่แน่

ไหนจะมี “แพตตี” รวมถึงคนอื่น ๆ ที่พร้อมจะสอดแทรกขึ้นมาได้ทุกเมื่อ 

แค่นึกก็น่าเชียร์แล้วครับ สำหรับอนาคตของวงการกอล์ฟหญิงบ้านเรา… 
                   
ผยองเดช 

เครดิตภาพ : AP