เมสซินา เดนาโร ซึ่งมีฉายาว่า “เดียโบลิก” และ “อู ซิกกู” ซึ่งแปลว่า คนผอม เคยถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต จากความผิดฐานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารอัยการต่อต้านมาเฟีย ได้แก่ นายโจวานนี ฟัลโคเน และ นายเปาโล บอร์เซลลิโน เมื่อปี 2535 นับเป็นอาชญากรรมที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งอิตาลี จนนำไปสู่การปราบปรามแก๊งมาเฟีย “กอซา นอสตรา”

เมสซินา เดนาโร วัย 60 ปี ถูกตำรวจอิตาลีในเครื่องแบบ 2 นาย พาตัวออกจากโรงพยาบาล “ลา มัดดาเลนา” ในเมืองปาแลร์โม และขึ้นรถมินิแวนสีดำที่จอดรออยู่ ท่ามกลางสาธารณชนในพื้นที่ที่ปรบมือและจับมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะที่รถคันดังกล่าวขับออกไปยังสถานที่ลับ ตามที่เผยให้เห็นในภาพบนสื่อสังคมออนไลน์

Reuters

แหล่งข่าวของศาลระบุว่า เมสซินา เดนาโร เข้ารับการรักษาและผ่าตัดมะเร็งเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้ชื่อปลอมในการนัดหมายหลายครั้ง

นอกจากนี้ นายเปาโล กุยโด อัยการเมืองปาแลร์โม ผู้รับผิดชอบการสอบสวนเมสซินา เดนาโร ระบุว่า การทำลายเครือข่ายผู้คุ้มครองของเขาเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุผล หลังจากทำงานมาหลายปี โดยชายคนที่สองที่ขับรถพาเมสซินา เดนาโร มาส่งที่โรงพยาบาล ถูกควบคุมตัวได้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากต้องสงสัยว่าให้การช่วยเหลือผู้หลบหนี

เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ตำรวจอิตาลี กล่าวว่า เมสซินา เดนาโร ยังคงสามารถบัญชาการการเคลื่อนไหวของกลุ่มมาเฟียหลายแก๊งในพื้นที่รอบ ๆ เมืองตราปานี บนเกาะซิซิลี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นระดับภูมิภาคของเขา

Reuters

อนึ่ง เมสซินา เดนาโร อาจต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานเกี่ยวข้องกับเหตุวางระเบิดที่กรุงโรม, เมืองมิลาน และเมืองฟลอเรนซ์ ในปี 2546 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 10 ราย ตลอดจนถูกกล่าวหาโดยอัยการ ว่า มีส่วนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวหรือร่วมกับผู้อื่น ในคดีฆาตกรรมหลายคดี เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1990

การจับกุม เมสซินา เดนาโร เกิดขึ้นเกือบ 30 ปี นับจากวันที่ตำรวจอิตาลีเข้าจับกุม นายซัลวาตอเร “โตโต” รีนา หัวหน้าแก๊งมาเฟีย คอซา นอสตรา ที่มีอำนาจมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ซึ่งเขาเสียชีวิตในห้องขังเมื่อปี 2560 โดยที่ไม่เคยปริปากเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แม้การจับกุม เมสซินา เดนาโร จะสร้างความสบายใจ แต่อิตาลียังคงประสบกับความลำบาก ในการควบคุมแก๊งอาชญากรรมที่แผ่ขยายออกไปในวงกว้าง โดยผู้สันทัดกรณีหลายคนระบุว่า กอซา นอสตรา ถูกชิงอำนาจโดยแก๊งมาเฟีย “เอ็นดรังเกตา” กลุ่มอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในอิตาลี

“มันมีความรู้สึกที่ว่า แก๊งกอซา นอสตรา ไม่แข็งแกร่งอย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1990 เนื่องจากไม่สามารถเข้าสู่ตลาดยาเสพติดได้จริง ๆ และนั่นทำให้พวกเขาตกเป็นรองแก๊งเอ็นดรังเกตา” นายเฟเดอริโก วาเรเซ ศาสตราจารย์ด้านอาชญาวิทยา จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด กล่าว.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS