เคยสงสัยไหมว่า “ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์” มีไว้ทำไม มีประโยชน์อย่างไรบ้าง หรือจริงๆ แล้ว มีแค่ติดไว้ให้ดูเท่ๆ เท่านั้น 

อันที่จริงแล้ว “ฟิล์มกรองแสง” นั้น เป็นวัสดุโปร่งใสที่มีคุณสมบัติลดความร้อน ลดรังสียูวี หรืออัลตราไวโอเลต รังสีอินฟราเรด ซึ่งช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสารรถยนต์ มีหลายประเภทด้วยกัน

ประเภทฟิล์มกรองแสง
1.แบบไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด คือ การทอดความสว่างของแสงอาทิตย์ให้ส่องเข้ามาได้น้อยลง แต่ไม่ป้องกันอันตรายจากรังสีต่างๆ อายุการใช้งานอยู่ที่ 3-5 ปี ราคาราว 800-1,500 บาท
2.แบบมีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด และกันความร้อนเพิ่มมากขึ้น สามารถแบ่งย่อยๆ ได้อีก 4 ประเภทคือ
– ฟิล์มปรอท, ฟิล์มเคลือบโลหะ และฟิล์มลดความร้อน มองคล้ายกระจกเงา ลดความร้อน 35-90% อายุการใช้งานราว 3-7 ปี ราคาประมาณ 2,000-5,000 บาท
– ฟิล์มนิรภัย (Safety Film) เป็นฟิล์มชนิดที่มีความหนาตั้งแต่ 4 MIL ขึ้นไป (1 MIL = 1/1,000 นิ้ว) ซึ่งจะทำการยึดเกาะแผ่นกระจกให้คงรูปมากที่สุด และยังจะช่วยซับแรงจากการกระแทกได้อีกด้วย
– ฟิล์มอินฟราเรด (Infrared Film) เป็นฟิล์มตัดรังสีอินฟราเรด กันความร้อนได้ดีที่สุด แต่ราคาก็สูงมากเช่นกัน
– ฟิล์มใสนาโน แสงแดดสามารถส่องผ่านได้มากที่สุดถึง 60% แต่ก็ช่วยลดความร้อนได้สูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิต ราคาที่ค่อนข้างสูง

“ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์”
– ป้องกันผิวหนังและดวงตา เนื่องจากสามารถลดรังสีอัลตราไวโอเลตได้กว่า 99% ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังและต้อกระจก
– กันความร้อน เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดสำหรับอากาศเมืองไทย เมื่อติดฟิล์มไว้ อุณหภูมิภายในรถก็จะไม่สูงมาก
– รักษาอุปกรณ์ภายในรถ ความร้อนจัดจากแสงแดดที่ส่องเข้ามา สามารถสร้างความเสียหายให้แก่อุปกรณ์ภายในรถยนต์แทบทุกส่วน ทั้งแผงคอนโซล เบาะรถ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ถ้าไม่ป้องกัน ทุกส่วนก็จะเสื่อมสภาพไวขึ้น สีบางที่อาจซีด ดูไม่สวยงาม เบาะอาจจะกรอบจนแข็งกระด้าง
– เพื่อความปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ฟิล์มแผ่นบางๆ นี้ สามารถยึดเศษกระจกไม่ให้แตกกระจายมาบาดผู้ขับขี่ อีกทั้งถ้าเป็นคุณผู้หญิงที่ใช้รถยนต์คนเดียวแล้ว ก็สามารถลดทอนการมองเห็นของคนภายนอกเข้ามาได้อีกด้วย
– ประหยัดน้ำมัน เหตุผลที่หลายๆ คนคงนึกไม่ถึง เนื่องจากเมื่อเจอกับอากาศร้อน หลายๆ คนคงจะเร่งความเย็นแอร์เพิ่มมากขึ้น เมื่อนั้นคอมเพรสเซอร์แอร์ก็ต้องทำงานหนัก ต้องใช้พลังงานเครื่องยนต์ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันยิ่งกว่าเดิม
– เพิ่มทัศนวิสัยในการขับ เนื่องจากลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ แสงไฟจากรถยนต์ที่ขับสวนทาง

“ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์” เป็นวัสดุชิ้นหนึ่งที่ถือว่ามีความสำคัญกับรถ ถ้าเลือกติดฟิล์มที่ดีมีคุณภาพ ก็จะขับได้อย่างปลอดภัย มีความสุข แต่ถ้าติดฟิล์มที่เข้มไป หรือเป็นฟิล์มที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้น ถ้าคิดจะซื้อมาติดตั้งทั้งที ก็ต้องเลือกที่ดีมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม เพื่อประโยชน์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา แล้วคุณจะไม่เสียดายเงินที่เสียไปอย่างแน่นอนครับ..

………………………..
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ 
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]