งานศิลปะการเพนท์ภาพมาวาดรูปภาพลงบนสินค้าประเภทต่าง ๆ ทำให้สินค้าธรรมดา ๆ กลายเป็นสินค้ามีจุดเด่นจุดขายความน่าสนใจมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันงานประเภทนี้ ก็ยังมีช่องว่างในตลาดอีกมาก หากพลิกแพลงสร้างสรรค์งานออกมามีรูปแบบโดนใจลูกค้า การเพนท์ลวดลายลงบนวัสดุต่าง ๆ จึงนับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ยังสามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่สร้างรายได้ให้กับเจ้าของผู้ที่สร้างสรรค์งานออกมาได้อย่างน่าสนใจ อย่าง “บีม-กชรัตน์ เทพสงวน” ที่เพนท์ลวดลายลงบน “ไฟแช็ก” ทำให้สินค้ามีเอกลักษณ์มีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งเป็นชิ้นงานที่สามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี…ซึ่งวันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน…

บีม-กชรัตน์ เทพสงวน เจ้าของผู้ที่ผลิตชิ้นงานไฟแช็กเพนท์ขาย เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่มาทำชิ้นงานเพนท์ไฟแช็กขายให้ฟังว่า…ในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อยู่นั้น ก็พยายามมองหาอะไรทำเพื่อเป็นการหารายได้ เลยมาคิดว่าจะทำอะไรออกมาขายเพื่อเป็นการหารายได้เพิ่มดี ซึ่งด้วยความที่เรียนทางด้านศิลปะอย่างการเพนท์ภาพอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะทำอะไรที่ตัวเองถนัดน่าจะดีที่สุด จากนั้นก็มาคิดว่า จะมีอะไรบ้างที่สามารถนำมาเพนท์ได้บ้าง ซึ่งไฟแช็กก็เป็นไอเดียแรก ๆ ที่คิดได้ เพราะมองว่ายังมีคนทำออกมาขายไม่มาก เลยลองนำไฟแช็กมาเพนท์เป็นภาพต่าง ๆ ดู จากนั้นก็ นำผลงานไปลงขายผ่านทางอินสตาแกรม ก็ปรากฏว่าชิ้นงานได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และมีออร์เดอร์สั่งเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ยึดทำขายเป็นอาชีพมาจนถึงปัจจุบัน

ไฟแช็กเพนท์ที่ทำ จะเน้นรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ ลวดลายภาพวาดที่เพนท์นั้น จะเน้นให้มีความน่ารักสดใส ทำให้ชิ้นงานมีเสน่ห์เฉพาะตัว ที่สำคัญชิ้นงานทุกชิ้นที่ทำออกมา จะใส่ใจทุกขั้นตอนการทำ เน้นความละเอียดประณีต เพื่อให้งานออกมาดีและมีคุณภาพที่สุด นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถออกแบบลายให้ทางเราเพนท์ได้ ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ชิ้นงานนั้นมีลวดลายที่ไม่ซํ้าใคร“เจ้าของชิ้นงานบอกถึงจุดเด่นของชิ้นงานไฟแช็กเพนท์ลาย ที่ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้า โดยลูกค้ามีทั้งที่สั่งซื้อไว้ใช้เอง และก็มีที่สั่งซื้อไปเก็บสะสม หรือสั่งซื้อสั่งทำไปให้เป็นของขวัญ

ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 3,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำชิ้นงาน ทุนวัสดุ อยู่ที่ประมาณ 40% จากราคา ราคาขายไฟแช็กเพนท์ลายเริ่มต้นตั้งแต่ 59 บาทต่อชิ้น ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลวดลายที่เพนท์ตามที่ลูกค้าต้องการ หากเป็นลายที่มีรายละเอียดเยอะราคาจะสูงขึ้น

วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็น ประกอบด้วย ไฟแช็ก, สีอะคริลิก, พู่กัน, จานสี, เทปกระดาษ, แล็กเกอร์ใส, สีสเปรย์ (สีขาว), ซองใสสำหรับแพ็กชิ้นงาน และอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ… “ไฟแช็กเพนท์ลาย”

เริ่มจากการพูดคุยกับลูกค้าถึงรายละเอียดแบบหรือลายที่ต้องการจะเพนท์ลงไฟแช็กให้เรียบร้อยก่อน หลังจากที่ได้รายละเอียดตามที่ลูกค้าต้องการแล้วก็เริ่มลงมือทำชิ้นงานได้ทันที โดยเริ่มจากเลือกไฟแช็กที่ต้องการมาใช้สีสเปรย์สีขาวพ่นเป็นสีรองพื้นก่อน เพื่อเวลาเพนท์ลวดลายจะง่ายขึ้น

หลังจากสีรองพื้นแห้งสนิทดีแล้ว ก็เริ่มทำการเพนท์ลวดลายตามที่ต้องการได้ทันที ใช้ดินสอทำการออกแบบร่างลวดลายตามที่ลูกค้าต้องการลงไปบนไฟแช็ก จัดวางตำแหน่งรูปภาพให้ลงตัวเสร็จแล้ว ก็เริ่มเพนท์ลงสีบนรูปภาพที่วาดไว้ได้เลย หลังจากที่ทำการลงสีตามแบบเสร็จแล้ว ก็พักทิ้งไว้ พอสีที่เพนท์แห้งสนิทดีแล้ว ตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้ไข ก็นำชิ้นงานไปทำการพ่นเคลือบด้วยแล็กเกอร์ใส เพื่อไม่ให้ลวดลายที่เพนท์นั้นหลุดลอกเวลาโดนนํ้า รอจนแล็กเกอร์ที่เคลือบนั้นแห้งสนิท นำมาแพ็กใส่ซองพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าได้ทันที เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำไฟแช็กเพนท์ลาย

“สำหรับคนที่สนใจอยากจะทำชิ้นงานแฮนด์เมดประเภทงานเพนท์นี้ หากมีพื้นฐานด้านการวาดภาพก็ยิ่งง่าย แต่หากไม่มีพื้นฐานหรือทักษะด้านศิลปะการวาดภาพลงสี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถฝึกหัดกันได้ไม่ยาก แค่มีความตั้งใจ ฝึกหัดทำบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดความชำนาญ จากนั้นก็มาเป็นเรื่องของไอเดียการออกแบบลวดลายให้มีความสวยงามโดดเด่น มีเอกลักษณ์โดนใจลูกค้า“ เป็นคำแนะนำจากเจ้าของชิ้นงาน

สนใจงาน “ไฟแช็กเพนท์ลาย” ของ บีม-กชรัตน์ สามารถติดต่อสอบถาม สั่งทำชิ้นงานได้ทางอินสตาแกรม : love_me_lighter_ …นี่เป็นอีกชิ้นงานที่เป็นงานฝีมืองานแฮนด์เมดที่นำเทคนิคการเพนท์ภาพมาต่อยอด โดยเพนท์ภาพลงบนสินค้าอย่างไฟแช็ก ทำให้กลายเป็นชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ และที่สำคัญเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถยึดทำเป็นอาชีพเสริม ใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้น่าสน

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน