เกม เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ซึ่ง ไทย เปิดสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต รับมือ “เสือเหลือง” มาเลเซีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากแฟนบอลล้นหลาม ด้วยความที่ “ช้างศึก” บุกแพ้มาก่อนในเกมแรก แฟนบอลจึงมากันชนิดเกือบเต็มความจุ ฝูงชนมากมาย รถติดแน่นขนัด

ก่อนเกม 2 ชั่วโมง แถวของแฟนบอลที่รอต่อคิวก็ยาวเป็นร้อยเมตรแล้ว แต่ด้วยความที่แต่ละโซนมีช่องตรวจกระเป๋าและบัตรชมเกมเพื่อเข้าสนามค่อนข้างน้อย ไม่เพียงพอกับจำนวนแฟนบอล ทำให้การต่อคิวเข้าสนามแออัดและล่าช้าพอสมควร ผมได้ตั๋วในโซน S หลังประตูทางทิศใต้ ซึ่งมีช่องทางตรวจแค่ 2 ช่อง ปรากฏว่าอีก 15 นาทีบอลจะคิกออฟ แถวยังยาวขดไปมาเป็นร้อยเมตรอยู่

ทันใดนั้น มีกลุ่มแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง (น่าจะเป็นแฟนบอลกลุ่มเดียวกับที่จุดพลุในสนาม เกมรอบแรกกับ ฟิลิปปินส์) สวมเสื้อสีดำ จำนวนหลักร้อยคน เดินมาเป็นขบวน แถมจุดพลุมาแต่ไกล (ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็จุดพลุนอกสนามกันไปหลายชุดแล้ว)

เมื่อถึงประตูทางเข้าโซน S ซึ่งมีแฟนบอลนับพันที่กำลังรอต่อคิวเข้าสนามยาวเป็นร้อยเมตรด้วยความร้อนใจกลัวไม่ทันบอลเขี่ย แต่แฟนบอลกลุ่มนี้ แทนที่จะไปต่อคิวตามปกติ พวกเขากลับเลี้ยวเข้าไปที่ประตู แล้วใช้กฏหมู่ แหกรั้วและแนวกั้น รปภ. เข้าไปดื้อ ๆ

ผมซึ่งอยู่กลาง ๆ แถว ได้ยินเสียงแต่คนโห่ และมีเสียงลากรั้วเหล็กที่ใช้กั้น ไม่เห็นเหตุการณ์ชัด ๆ แต่ภาพที่ผมเห็นคือมีเจ้าหน้าที่ รปภ. เดินประคองเพื่อนที่น่าจะได้รับบาดเจ็บมานั่งพัก รวมถึงมีน้องผู้หญิงที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วของ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ วิ่งร้องไห้สวนกับแถวของแฟนบอลออกไป!

แถมเมื่อเข้าไปในสนาม แฟนบอลกุล่มนี้ไม่พูดพร่ำทำเพลง หันไปหาเรื่องแฟนบอลอุลตรา มาลายา ของมาเลเซีย ที่อยู่ใกล้ ๆ กันตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม และสุดท้ายในช่วงครึ่งหลัง พลุเจ้ากรรมก็ถูกขว้างลงมาจากแฟนบอลกลุ่มนี้เหมือนเดิม

หลายคนมีคำถามว่าทำไมถึงปล่อยให้เอาพลุเข้ามาได้ ทำไมไม่ตรวจยึดตั้งแต่หน้าสนาม คำตอบย้อนกลับไป 2-3 ย่อหน้าด้านบน คือพวกเขาใช้วิธีใช้คนหมู่มากพังรั้วเข้ามาโดยที่ไม่ต้องผ่านการตรวจค้นใด ๆ และให้น่าสงสัยว่าคนกลุ่มนี้มีตั๋วชมเกมครบทุกคนหรือเปล่าด้วย

และที่น่าสงสัยกว่านั้น คือคนพวกนี้ก็ยังขึ้นไปยืนอยู่บนอัฒจันทร์ได้โดยหน้าชื่นตาบาน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น…!!!

แต่ในอีกมุม ก็ต้องขออนุญาตตำหนิการจัดการของฝ่ายจัดด้วย โซนอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ประตูทางเข้าโซน S มันคับแคบ และน้อยเกินไป ไม่สัมพันธ์กับจำนวนแฟนบอล ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำจุดก็มีสัก 10 กว่าคนได้มั้งครับ และเกือบครึ่งก็เป็นผู้หญิง แถมผมยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แถวนั้นเลยสักคน ทั้งที่ก็เห็นว่ามากันเยอะ เมื่อถูกคนเป็นร้อยผลักดันเข้าไป มันจึงไม่มีทางที่จะต้านได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บ้านเมืองมีขื่อมีแป ทุกสถานที่มีกฏให้ต้องเคารพเพื่อที่จะอยู่ในสังคม การเอาคนหมู่มากมากดดันเพื่อที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่คนที่มี “อารยะ” และ “มารยาท” เข้าทำกัน

ถ้าจะบอกว่าพวกคุณมีเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ ขอบอกเลยว่ามันเป็นตรรกะที่ “ป่วย” มาก และพวกคุณมีอภิสิทธิ์อะไรที่จะมาแซงคิวแฟนบอลที่ต่อคิวรอเข้าสนามตามกฏ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรในการไปพังรั้วกันทำให้ รปภ. รวมถึงน้องเจ้าหน้าที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ต้องเจ็บตัว รวมถึงบอบช้ำทางสภาพจิตใจแบบนั้น

หรือจะอ้างว่าพวกคุณคือกลุ่มแรก ๆ ที่มาด้วยใจ และตามเชียร์ทีมชาติในวันที่ศรัทธาตกต่ำไม่มีใครดู ผมเชื่อว่าแฟนบอลไทยทั้งประเทศก็คงขอบคุณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับอนุญาตให้ทำพฤติกรรมไร้ “อารยะ” และ “มารยาท” อะไรแบบนี้ได้

และถ้าการเชียร์ทีมชาติไทยถือเป็นบุญคุณ ก็อย่ามาดูเลยครับ คุณไม่ใช่แฟนบอลพันธุ์แท้หรอก…

ผยองเดช