บรรดา “กูรู” ด้านโหราศาสตร์หลายสำนัก ฟันธงตรงกันว่า ในเดือน ม.ค.ปีนี้ จะมีวันดี วันมงคล วันฤกษ์ดี อยู่ 3 วัน คือ วันที่ 6 วันที่ 9 และ วันที่ 29

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันจันทร์ที่ 9 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันแรมสามค่ำ จะตรงกับ วันราชาโชค วันไชยโชค และวันอมริสสโชค !!

นั่นหมายความว่า…ทางโหราศาสตร์แล้ว ถือเป็นวันดีอย่างยิ่ง เพราะมีโชคใหญ่ไปรวมกันอยู่ในวันเดียว ทั้งโชคในระดับราชา วันแห่งชัยชนะ และวันแห่งการมีโชคตลอดกาล

ในเมื่อเป็น “วันมหามงคล” เช่นนี้!! จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีสารพัดกิจกรรมเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัว “บิ๊กตู่” ในฐานะสมาชิกพรรค “รวมไทยสร้างชาติ”

หรือแม้แต่เรื่องของการรับนักท่องเที่ยวจีน ที่ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา แม้เป็นเที่ยวบินตามสล็อตเดิมที่ได้ตกลงกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ไว้อยู่แล้วก็ตาม

“นักท่องเที่ยวจีน” เป็นนักท่องเที่ยวหลักที่เที่ยวไทยมากที่สุดในช่วงก่อนเกิดโควิด โดยมีมากถึง 11 ล้านคน หรือเฉลี่ยเกือบ 1 ล้านคนต่อเดือน ครองสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยรวมเกือบ 40 ล้านคนในปี 62

ดังนั้นการจัดกิจกรรม “ต้อนรับ” นักท่องเที่ยว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงถึงความ “จริงใจ” ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ท่ามกลางสถานการณ์ทั่วโลกที่ยัง “กังขา” กับตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19

แต่ในเมื่อไวรัสร้ายชนิดนี้ยังไม่หมดไปจากโลก และยังกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ ทุกคนก็ต้องอยู่ร่วมกันไปให้ได้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่มีราคาแพงแสนแพง

Free photo female tourists on hand have a happy travel map.

แม้กระทั่ง จีนก็ตามที่เลือกใช้นโยบาย ซีโร่ โควิดสุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหว !!

เอาเป็นว่าในวันที่ 9 ม.ค.นี้ เที่ยวบิน MF 833 ที่นำนักท่องเที่ยวมาจากเมืองเซี่ยเหมิน จำนวน 286 คน จะได้รับ “ความประทับใจ” จากประเทศไทย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า นักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้าน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 แน่นอน

เพราะ!! อย่าลืมว่า นักท่องเที่ยวจีนสร้างรายได้เข้าไทยมากถึง 5.31 แสนล้านบาทในปี 62 และยังเป็นรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ปี 57 ที่มีเพียง 2 แสนล้านบาทนิด ๆ เท่านั้น

รมว.พิพัฒน์ ตอบรับประธานเปิด ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ ที่พัทลุง

เป้าหมายของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อจีนเปิดประเทศเช่นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2.38 ล้านล้านบาท และในจำนวนนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวไทยกว่า 1 ล้านคนแน่ ๆ

ในเมื่อเงินมากองอยู่ตรงหน้า ก็ต้องคว้าไว้ให้มั่น แต่ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่า “พร้อมหรือยัง” เพราะภาคการท่องเที่ยวนั้นใหญ่มาก แม้ว่าไทยจะประกาศมาตรการรับนักท่องเที่ยวจีน เหมือนกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นก็ตาม

อย่าลืมว่าพิษของโควิด นั้นทำร้ายภาคการท่องเที่ยวไม่น้อย โดยเฉพาะ “กำลังคน กำลังแรงงาน” ทั้งในระบบและนอกระบบ ที่ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม

มีการคาดการณ์จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวว่า ณ เวลานี้ ภาคแรงงานด้านท่องเที่ยวยังขาดแคลนไม่น้อยไปกว่า 5 ล้านคน ด้วยเหตุนี้กระแสข่าวคราว เรื่องการแย่งชิง แรงงานคงไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน พนักงานต้อนรับ ที่เป็นกำลังหลักสำคัญ

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องของ รถทัวร์ คนขับรถ มัคคุเทศก์ รถขนส่ง ร้านอาหาร และอีกมากมายสารพัด ถามกลับว่า? เรื่องราวเหล่านี้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือมากน้อยเพียงใด

หากยังไม่พร้อม แค่เพียงรับมือด้วยวิธีการ “แก้ผ้าเอาหน้ารอด” ก็จะวนเป็นลูปเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ ที่ไม่เคยแก้ได้แบบเบ็ดเสร็จ เพราะเพียงแค่…ให้ผู้ประกอบการเข้ามาดำเนินการ ก็ทำได้เพียงแค่ส่วนหนึ่ง ภาครัฐที่เกี่ยวข้องเองต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยเช่นกัน

ท่องเที่ยวยิ้มต่างชาติเข้ามาทะลุล้าน ตั้งเป้าโกยรายได้กู้วิกฤติเศรษฐกิจ |  เดลินิวส์

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ย้ำไว้ชัดเจนว่า เชื่อมั่นว่าจีนไม่อยากให้เกิดภาพที่นักท่องเที่ยวจีนออกไปไหน แล้วทำให้เกิดการแพร่ระบาดอีกรอบ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องตั้งรับให้ดี เพื่อการป้องกันความเสี่ยงกับการกลับมาแพร่ระบาดซ้ำ และกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การมีเพียงแค่พวงมาลัย!! คล้องคอนักท่องเที่ยวจีนหรือนักท่องเที่ยวชาติอื่น คงไม่ได้สร้างความประทับใจให้แน่นอน ดังนั้นรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง คงต้องหันมาแก้ปัญหาให้ถูกจุดด้วยเช่นกัน!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”