เหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชม. โครงการในดวงใจของคนทั้งชาติอย่าง “บัตรคนจน” จะสิ้นสุดการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในเวลา 23.00 น. ของวันนี้ (31 ต.ค.65) ใคร? ที่ยังเพิกเฉย ยังเฉยเมย ยังนิ่งดูดายไม่สนใจ จะมาร้องแรกแหกกระเชอ กันอีกไม่ได้แล้ว เพราะถือว่าเป็นโอกาสสุดท้ายของคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างแท้จริง

เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ขยายเวลาจากกำหนดเดิมคือสิ้นสุดการลงทะเบียนวันที่ 19 ต.ค. 65 มาเป็น 31 ต.ค.65 หลังจากหลายคนยังมีปัญหา ยังตกหล่น โดยเฉพาะปัญหาว่า โสด หรือไม่โสด แต่เมื่อพ้นจากนี้แล้ว คาดเดาได้เลยว่าไม่น่าจะมีต่อเวลากันไปอีก
กระทรวงการคลังได้รายงานผลการลงทะเบียน ตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 จนถึงวันที่ 25 ต.ค. 65 พบว่า มีประชาชนคนไทยมาลงทะเบียนแล้วกว่า 21.99 ล้านคน ซึ่งต้องยอมรับว่า ยอดการลงทะเบียนครั้งนี้กลับเพิ่มมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 20 ล้านคน และยังมากกว่าครั้งแรกที่มีคนมีสิทธิอยู่เพียงแค่ 13.45 ล้านคน

เช็กเลย “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” 18 ก.ค.นี้มีเงินโอนเข้า สยามรัฐ

เป็นที่รู้กัน!! การเข้ามาลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะหลายคนถูกปัญหาโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เข้ามาทับถม จึงกลายเป็นว่าทำให้ “คนจน” ทะลักมากยิ่งขึ้น

แต่…จำนวนคนที่เข้ามาลงทะเบียนในครั้งนี้ ต้องมีการกลั่นกรอง มีการตรวจสอบในรายละเอียดตามเงื่อนไขที่กำหนด ก็ใช่ว่าจะได้ครบตามจำนวนที่ลงทะเบียนซะเมื่อไหร่ ราว ๆ เดือน ม.ค.ปี หน้าโน่นแหละ ถึงจะรู้ว่าใครได้สิทธิคอรบครองบัตรคนจนกันอีกบ้าง ก็ต้องไปรอเปิดเว็บไซต์ที่รัฐกำหนด เพื่อตรวจสอบสิทธิตัวเองว่าเข้าข่ายหรือไม่ เพื่อยืนยันตัวตนกันอีกครั้ง

แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่ได้สิทธิบัตรในดวงใจคนไทย รอบนี้ ต้องใจจดใจจ่อรอฟังนโยบายกันอีกครั้งชัด ๆ ว่าสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ยังเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไป จะมากขึ้น หรือลดน้อยถอยลง

เพราะ…อย่าลืมว่า มีการคาดการณ์กันว่าในปีหน้า ปี 66 ประเทศ ต้องเผชิญกับความลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก จากการที่เศรษฐกิจโลกนั้นต้องเผชิญกับภาวะถดถอย ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ประเทศไทยก็หนีไม่พ้นที่ต้องถูกผลกระทบไปด้วยขณะเดียวกัน รัฐบาลไม่ได้มีเงินงบประมาณล้นเหลือ ที่ใช้เงินได้อย่างมือเติบเพื่อนำมาปรนเปรอความสุขให้กับคนไทย การประเคนสิทธิประโยชน์ให้เพิ่มมากขึ้น คงเป็นเรื่องยาก

แต่อย่างน้อย!! เชื่อได้ว่า สิทธิเดิม ๆ ยังคงมีอยู่ ทั้งค่าซื้อสินค้า 200-300 บาท ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 500 บาท ส่วนลดแก๊สหุงต้ม 45 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) กรณีกลุ่มเปราะบางจะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) เงินช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)


นอกจากนี้ยังมี เงินช่วยค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง) เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กจะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงเงินพิเศษผู้สูงอายุ 50 ถึง 100 บาท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้

ต้องยอมรับว่า…สารพัดนโยบายของรัฐบาล โครงการบัตรคนจน หรือโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นโครงการที่ถูกอกถูกใจคนทั้งประเทศ เพราะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ถือบัตร (ตัวจริง) ได้อย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช. ได้สำรวจความพึงพอใจกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประโยชน์มากที่สุด พบว่า อันดับหนึ่ง 97.6% คือโครงการบัตรคนจน อันดับสอง คือ โครงการคนละครึ่ง 96.5% อันดับสาม โครงการ ม.33 เรารักกัน 74.8% อันดับสี่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 38.3% และอันดับ 5 คือโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 31.1%


ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ครม. ได้เห็นชอบ ให้จัดทำโครงการนี้ต่อเนื่อง โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ 20 ล้านคน ซึ่งคาดหวังกันว่าจะครอบคลุมผู้ถือบัตรเดิมและผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่

คลัง” เปิดลงทะเบียน "คนละครึ่ง เฟส 5” รอบเก็บตก 2.5 ล้านสิทธิ ถึง 1 ต.ค.นี้

ขณะที่ กระทรวงการคลัง ได้ตั้งงบประมาณเพื่อโครงการนี้เอาไว้ราว 60,000 ล้านบาท แม้เห็นทิศทางแล้วว่าพิษของโควิดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้คนตกงาน และไม่มีรายได้

นั่นจึงกลายเป็นที่มาว่า ทำไม? ถึงมีคนแห่เข้ามาลงทะเบียนกันมากกว่าที่กำหนดเอาเป็นว่า ณ เวลานี้ คงต้องมารอดูตัวเลขกันชัด ๆ ว่า สุดท้ายแล้ว คนที่ได้รับสิทธิที่แท้จริงจะมีจำนวนเท่าใด หลังจากรัฐได้กำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะต้องการให้สวัสดิการ ความช่วยเหลือที่รัฐจัดให้นั้น ตกไปถึงมือคนจนอย่างแท้จริง

แต่เชื่อเถอะ…สุดท้าย จะมีสักกี่คนที่เป็นคนจนตัวจริง!! ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไป!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”