ผมคิดว่าการย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี ไปร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คือดีลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในซัมเมอร์นี้ แม้เป็นดีลที่ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนกระทั่งชูเสื้อจบลงในไม่กี่วัน
เริ่มจากบาร์ซาประกาศว่าหมดปัญญาต่อสัญญาใหม่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เมสซี ร้องไห้ตาบวมอำลาทีมวันที่ 8 สิงหาคม และเซ็นสัญญาย้ายทีมเป็นทางการวันที่ 10 สิงหาคม
เบ็ดเสร็จสิ้นสุดใน 6 วัน กระนั้นมันกลายเป็นดีลสะท้านฟ้าสะเทือนดินมากที่สุด เพราะคงไม่มีใครคิดมาก่อนว่าเมสซีจะย้ายทีม
ที่สำคัญนี่คือย้ายทีมที่น่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากที่สุดแล้ว
ไล่ตั้งแต่บาร์เซโลนาที่พอไม่มีเมสซี นักวิเคราะห์คำนวนแล้วว่าพวกเขาสูญเงินไปแน่ๆ กว่า 137 ล้านยูโรต่อปี หรือคิดเป็น 11% ของมูลค่าสโมสร 1.26 พันล้านยูโร
บาร์ซาอาจไม่ต้องจ่ายเงินค่าจ้างบานตะไท แต่จากนี้ภาพลักษณ์ของพวกเขาย่อมไม่เหมือนเดิม เพราะคนที่เคยเป็นหน้าเป็นตาของสโมสรไม่ได้อยู่กับทีมอีกต่อไป เช่นเดียวกับลา ลีกา ที่ไม่รู้ว่าจะสูญเสียฐานคนดูทั่วโลกอีกมากน้อยแค่ไหน
ตรงข้ามกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ความฝันของพวกเขาคือการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งการได้เมสซีก็อาจเป็นทางลัดทำให้มันมีความเป็นไปได้มากขึ้น อีกทั้งปารีสฯ ยังเตรียมหอบเงินเข้าคลังได้อีกเป็นกระบุง แค่เปิดตัววันแรก ผู้คนก็ต่อแถวยาวเป็นกิโลเมตรเพื่อซื้อชุดแข่งจนหมดใน 30 นาที ทั้งที่ก่อนหน้านั้นปารีสฯ เพิ่งขายเสื้อแข่งผ่านเว็บไซต์ ปรากฎว่า 150,000 ตัวหมดเกลี้ยงภายใน 7 นาที และไหนจะยอดติดตามสื่อโซเชียลที่มีผู้ติดตามเกินล้านกว่าบัญชีในไม่กี่วัน
วันเปิดตัว นาสเซอร์ อัล-เคลาฟี ประธานสโมสรปารีสฯ ยังโม้ว่าทั้งโลกคงจะ “ช็อก” แน่ถ้าได้รู้ว่าทีมจะทำรายได้จากเมสซีมากขนาดไหน
แน่นอนว่าไม่น่าเกินเลยความจริง คิดดูว่าขนาดตอนยังมีสัญญาผูกมัด ค่าตัวเกินร้อยล้าน ปารีสฯ ยังพร้อมจ่าย แต่ได้มาฟรีแบบนี้ยิ่งกว่าคุ้มเกินคุ้ม
ดังนั้นผลงานในสนามจะออกมาแบบไหนยังคาดเดาลำบาก แต่ถ้าเป็นธุรกิจไม่ต้องเดา ปารีสฯ ฟันเงินกระเป๋าตุงล้านเปอร์เซ็นต์ ยิ่งกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เช่นเดียวกับ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่ผ่านมาจัดอยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปก็จริง แต่ใครก็รู้ดีกว่าพวกเขายังเป็นลีกที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าชาติอื่นในระนาบเดียวกัน แต่พอได้เมสซีไปคราวนี้เชื่อว่ายอดแฟนบอลจะติดตามลีกเมืองน้ำหอมจะมากขึ้นอีกเป็นกอง
ขณะที่เมสซีได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 650,000 ปอนด์ ถึงเรื่องเงินคงไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาเลือกปารีส แต่ปารีสตอบโจทย์มากที่สุดในแง่โอกาสประสบความสำเร็จ อีกทั้งคงเป็นแค่ไม่กี่ทีมที่จ่ายค่าจ้างไหว เงินก็ได้เยอะกว่าเดิม เผลอๆ โอกาสเป็นแชมป์ยุโรปยังเป็นไปได้มากกว่าบาร์ซายุคปัจจุบัน.
