คาเซมิโร ต้องรอนานถึง 5 สัปดาห์เลยนะครับกว่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก เป็นนัดแรกในเกมที่ “ผีแดง” บุกเชือด เอฟเวอร์ตัน หวุดหวิด 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

            หลายคนอาจจะคิดว่า กาเซมิโร จะยึดตำแหน่งตัวจริงได้ทันที หลังย้ายมาจาก รีล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 60 ล้านปอนด์

            ทว่าทุกอย่างก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ดันกลับมาถือกำเนิดอีกครั้งในร่างทอง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจน เอริค เทน ฮาก ไม่กล้าถอดออกจากตำแหน่งตัวจริง

            กระนั้นหลังจากที่ แม็คทอม โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักในเกมแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-6 โอกาสจึงตกมาเป็นของ คาเซมิโร บ้าง

             “กาเซ” เริ่มต้นเกมที่ กูดิสัน ปาร์ก ได้ไม่ดีนัก เมื่อเสียบอลบริเวณกลางสนามจนนำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 ของ เอฟเวอร์ตัน จากการปั่นโค้งสุดสวยของ อเล็กซ์ อิโวบี ตั้งแต่นาทีที่ 5

            ทว่าหลังจากนั้น ดาวเตะทีมชาติบราซิล ก็เริ่มจะปรับตัวกับสภาพสนามอันเฉอะแฉะ และการเพรสซิงอันดุดันของนักเตะเอฟเวอร์ตันได้ ก่อนจะทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองหลังจบเกม

            แม้จะเป็นนักเตะที่เสียบอลมากที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง 17 ครั้ง แต่ คาเซมิโร ก็เป็นนักเตะที่แย่งบอลได้มากที่สุดถึง 9 ครั้งเช่นกัน

            ที่สำคัญ ดาวเตะวัย 30 ปี ยังแสดงให้เห็นถึงชั้นบอลระดับโลกด้วยการแทงยาว ๆ ให้ คริสเตียโน โรนัลโด ควบตะบึงเข้าไปยิงประตูที่ 700 ในเกมระดับสโมสรของตัวเอง และกลายเป็นประตูชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเฉือน เอฟเวอร์ตัน ลงได้อีกด้วย

            สิ่งที่ทำให้ คาเซมิโร ดูเหนือกว่า แม็คโทมิเนย์ ก็คือประสบการณ์ ความนิ่ง ความเป็นผู้นำในสนาม การอ่านทางบอล และวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล หรือ ที่พวกฝรั่งอั่งม้อเรียกกันว่า “Vision” นั่นเอง

            ในจังหวะจวนตัวที่ถูกคู่แข่งบีบเขาหา คาเซมิโร สามารถเอาตัวรอดได้สบาย ด้วยการพลิกบอลหลบ หรือ ป้ายบอลออกด้านข้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการแก้เพรส และเป็นการตั้งต้นเกมสวนกลับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมกันในคราเดียว ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราจะไม่ได้เห็นจากนักเตะอย่าง แม็คโทมิเนย์ หรือ เฟร็ด ที่จับบอลแรกยังกระดอนไปไกล 3 เมตรแน่นอน

            จากการที่ แม็คโทมิเนย์ สะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ และจะติดโทษแบนหนึ่งนัดทำให้ คาเซมิโร จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดต่อไปกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แน่นอน ซึ่งหากยังทำผลงานได้ดีเหมือนในเกมกับ ทอฟฟีสีน้ำเงิน มันก็น่าจะถึงเวลาที่ ห้องเครื่องทีมชาติบราซิล จะก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของ เรด เดวิลส์ ได้อย่างถาวรแล้วล่ะครับ.

แท ยอน