อย่างไรก็ตาม รัฐพิธีศพซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา สามารถสะท้อนได้อย่างชัดเจน ว่าญี่ปุ่นยังคงแบ่งแยกอย่างมากจาก “มรดกทางการเมือง” ของอาเบะ ที่น่าจะทำให้เกิดการแบ่งขั้วมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของญี่ปุ่น
หลายเขตในกรุงโตเกียว มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จนบรรยากาศดูเหมือนกับรัฐตำรวจ มากกว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศ ซึ่งมีเสถียรภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตำรวจราว 20,000 นาย และทหารอีกมากกว่า 1,000 นาย เบียดเสียดอยู่ในบริเวณสถานที่ประกอบรัฐพิธีศพ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนออกมารวมตัวกันที่ถนน
หากเปรียบเทียบญี่ปุ่นเป็นสถาบันขนาดใหญ่ แหล่งรวมชนชั้นกลางที่เหมือนกันส่วนใหญ่ และเป็นรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รัฐพิธีศพของอาเบะกลับเผยให้เห็นความเป็นจริงอันยุ่งเหยิงของประเทศที่แบ่งแยก มันเป็นสถานที่ใต้เงาของสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งยังคงมีขนาดใหญ่พอกับความกังวลด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ที่ขับเคลื่อนการเลือกตั้งสมัยใหม่
สำหรับผู้มาร่วมไว้อาลัยนับหมื่นคนที่ยืนต่อแถวยาวเหยียด เพื่อผลัดกันโค้งคำนับและวางช่อดอกไม้ ใต้ภาพถ่ายของอาเบะในสวนธารณะใกล้กับสถานประกอบพิธีการ อดีตผู้นำญี่ปุ่นผู้ล่วงลับคือ ผู้นำของภารกิจอันกล้าหาญที่ยังทำไม่สำเร็จ เพื่อให้ญี่ปุ่นเป็น “ประเทศปกติ” เขาส่งเสริมความภาคภูมิใจของชาติ ในการมีส่วนร่วมระดับนานาชาติอันมหาศาลของญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นการมุ่งเน้นไปยังความละอายค้างคาที่มีต่อความโหดร้ายในสมัยสงคราม
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่เดินขบวนทั่วกรุงโตเกียว และตามเมืองใหญ่อีกหลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งมันเป็นภาพสะท้อนของความไม่พอใจ ซึ่งฝังลึกเกี่ยวกับการให้เกียรติชายคนหนึ่ง ที่นักวิจารณ์กล่าวว่า เขาได้พยายามล้างบาปความโหดร้ายในช่วงสงครามของญี่ปุ่นมาหลายครั้งหลายหน, ปลุกปั่นการรู้สึกของชาตินิยม และมีส่วนร่วมในความเป็นผู้นำที่รุนแรง
อาเบะ มองว่า รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นเป็นผลผลิตจาก “ความยุติธรรมของผู้ชนะ” ของชาติตะวันตกในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจำกัดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่น ให้อยู่ในกรอบของกองกำลังป้องกันตนเอง ( เอสดีเอฟ )
ทั้งนี้ มรดกของอาเบะมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ตลอดไปในพรรคการเมือง ซึ่งเขาใช้เวลาสนับสนุนมานานหลายทศวรรษ นั่นคือ พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรคอนุรักษนิยม ซึ่งบริหารประเทศต่อเนื่องหลายสมัย โดยอาเบะชนะการเลือกตั้งทั่วไปถึง 6 ครั้ง ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผู้ติดตามของอาเบะในพรรคแอลดีพีเป็นเหมือนกองทหาร บุคคลซึ่งโดดเด่นมากที่สุด คือ ผู้นำญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ที่ให้คำมั่นสัญญาว่า จะยกระดับขีดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่น และเดินตามรอยอาเบะ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : REUTERS
