จำได้ว่า…เมื่อหลายปีก่อนค่าย Studio Khara หนึ่งในสตูดิโอภาพยนตร์ชั้นนำของญี่ปุ่น ออกมาประกาศผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่า จะผลิตภาพยนตร์เรื่อง Shin Ultraman กำหนดเข้าฉายปี 2021 สร้างความฮือฮาให้เหล่าแฟนคลับเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการรวมเอาเรื่องราวเก่า ๆ มาเล่าให้ครบในเวลาเกือบ 2 ชม. เสมือนกับเป็นการปัดฝุ่นตำนานเก่าแก่กว่า 56 ปี หลังจากที่เคยฉายออกทีวีในญี่ปุ่นจนกลายเป็นซีรีส์ที่โด่งดังในปี 1966 ซึ่งในปี 2022 นี้ Shin Ultraman ก็ลงมาฉายในประเทศไทยจนได้…

เรื่องย่อ ชิน อุลตร้าแมน

อุลตร้าแมน หรือ มนุษย์ต่างดาวจากกาแล็กซีเนบิวลา M78 ระหว่างปฏิบัติภารกิจตรวจสอบสิ่งมีชีวิตบนโลก เขาก็พบว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่มีภูมิปัญญายอดเยี่ยม สร้างมารถพัฒนาความรู้ในทางสร้างสรรค์ หรือจะทำลายล้างก็ได้ พฤติกรรมทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับคุณธรรมของแต่ละคน ระหว่างเฝ้าสังเกตการณ์จู่ ๆ ก็มี สัตว์ประหลาดยักษ์ (ไคจู) ออกอาละวาดในประเทศญี่ปุ่น แม้เหล่าทหารและกองทัพจากนานาชาติเข้ามาร่วมมือกันสู้ด้วยขีปนาวุธที่รุนแรงและทันสมัยที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ระคายผิวไคจูแต่อย่างใด ท้ายที่สุด อุลตร้าแมน ได้ออกมาช่วยเหลือทำลายไคจู แต่กลับเกิดอุบัติเหตุขึ้น

โดยระหว่างที่ “ชิน ฮายาตะ” ออกมาช่วยเด็กไม่ให้โดนลูกหลงจากการต่อสู้ของ ไคจู และอุลตร้าแมน แต่เขากลับเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อให้เด็กรอดตาย ด้วยเหตุนี้ อุลตร้าแมน จึงเห็นถึงคุณงามความดีของ “ฮายาตะ” ในมุมของความเสียสละ เขาจึงตัดสินใจสถิตอยู่ในร่างของ “ฮายาตะ” เพื่อปกป้องมนุษย์โลก และหากอยากจะแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมน เขาก็ใช้ “เบตาแคปซูล” ช่วยให้ร่างขยายใหญ่ยักษ์ขึ้น

จุดแข็งของ ชิน อุลตร้าแมน

การออกแบบคอสตูมที่ดูผอมเพรียว ทะมัดทะแมง ทำให้รู้สึกแปลกตากว่า อุลตร้าแมน ในรุ่นอื่น ๆ ยิ่งนำไปใส่กับมุมกล้องและโทนภาพเก่า ๆ บางซีน มันเหมือนกับเป็นการชุบชีวิต อุลตร้าแมน ในกรอบเดิม ๆ เพิ่มเติมองค์ประกอบศิลป์จนดูมีชีวิตชีวากว่าชุดยางเก่า ๆ ขณะที่ฉากการต่อสู้ทำออกมาได้สมจริงและดุดัน แต่ก็ยังพบว่ามีบางซีนดูลอยและปลอมอยู่ การดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วและกระชับในช่วงแรก ก่อนจะแผ่วเรื่องการต่อสู้ลงไป จนกลายเป็นวิวาทะทางการเมือง การปกครอง และการต่อรอง จนเส้นเรื่องพลิกหน้ามือเป็นหลังมือสื่อให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ ๆ นอกกรอบของผู้กำกับภาพยนตร์

จุดอ่อนของ ชิน อุลตร้าแมน

การปรับบทและฉากการต่อสู้ ให้ลดน้อยลงไป เป็นอะไรที่ดูพลาดไปหน่อย เพราะถ้าพูดถึง “อุลตร้าแมน” นั่นคือหนังแอ๊คชั่นสัตว์ประหลาด ผู้ชมย่อมคาดหวังว่าจะได้เห็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับปรากฏว่า เนื้อหาบทแอ๊คชั่นน้อยมาก ๆ ในช่วงกลางเรื่องจนท้ายเรื่องมีแต่การพูดคุยพร้อมกับบทสนทนาที่เนือยและยืด แถมบทตัวละคร พระเอก “ฮายาตะ” เริ่มต้นมายังพอคุยเป็นผู้เป็นคน พอไปซีนกลางเรื่อง กลายเป็นหุ่นหน้านิ่ง ไร้ชีวิตชีวา มีมุกตลกก็ขำบ้างไม่ขำบ้าง ดูแล้วปลอมมาก

แม้จะเข้าใจว่าผู้กำกับเขาดัดแปลงเนื้อหา จับเอาบางช่วงบางตอนจากภาพยนตร์ซีรีส์ มาเชื่อมต่อกันไปมา แต่พอดูจนจบแล้วรู้สึกได้เลยว่า หนังใส่ซีนกัดจิกการเมืองการปกครองเอาไว้มากมาย เหมือนกับต้องการสื่อไปยังใครหรือไม่ การปล่อยมุกตลกร้ายโดยเฉพาะซีนสาวมนุษย์ยักษ์ มี ฉากที่ทะลึ่ง บางคนตลก บางคนสนุก แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ชมบางท่านโดยเฉพาะหญิงสาวซึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับตัวละครเจอ อันนี้คงไม่สนุกไปด้วยอย่างแน่นอน

2/5 กะโหลก สำหรับภาพยนตร์ที่เอาเรื่องราวเก่า ๆ มาปัดฝุ่น ใส่ความใหม่ลงไปเพื่อให้เกิดความสนุกแบบล้นทะลักจอ แต่น่าเสียดาย ที่มันดันล้นออกซะจนแทบหมดนี่นะซิ

—————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ DEXclub