ก่อนหน้าที่จะได้ชมภาพยนตร์ญี่ปุ่น “Haken Anime วัยชน คนเมะ” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Anime Supremacy!” ส่วนตัวไม่ได้คาดคิดว่าหนังจะสนุกและดีขนาดนี้ สำหรับคนที่มีความผูกพันกับการ์ตูนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเคยอ่านหรือเคยดูการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เรียกว่า “อนิเมะ” นี่คือหนังที่คุณจะสามารถอินได้ และอาจพาคุณไปได้ไกลกว่าที่คาดหวังเอาไว้มาก

Haken Anime ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายขายดี ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารผู้หญิง an-an ระหว่างปี 2012-2014 และเคยสร้างเป็นละครเวทีในปี 2019 เป็นเรื่องราวของ ไซโตะ ฮิโตมิ (แสดงโดย ริโฮะ โยชิโอกะ) สาวไฟแรงที่ได้รับมอบหมายให้อยู่ในทีมสร้างอนิเมะเรื่องแรกของเธอในฐานะผู้กำกับ โดยมี ซาโตรุ ยูกิชิโระ (แสดงโดย เอโมโตะ ทาสุคุ) เป็นผู้ช่วยคอยหนุนหลัง เธอและเขาต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ในวงการอนิเมะ เพื่อสร้างสุดยอดอนิเมะที่ตั้งใจเอาไว้ โดยต้องรับมือกับสารพัดปัญหาต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามามากมาย ในขณะเดียวกัน อูจิ ชิฮารุ (แสดงโดย นากามุระ โทโมยะ) ยอดผู้กำกับขั้นเทพแห่งวงการ ที่เคยสร้างอนิเมะยอดฮิตมาก่อน แถมยังเป็นเสมือนไอดอลของ ฮิโตมิ ก่อนที่เธอจะเข้าวงการ ได้จับมือกับโปรดิวเซอร์มือทอง อาริชินะ คายาโกะ (แสดงโดย โอโนะ มาจิโกะ) เพื่อร่วมกันสร้างอนิเมะเรื่องใหม่ในรอบ 8 ปีของเขา!! และเหมือนชะตาฟ้าลิขิต ให้อนิเมะของทั้ง 2 คน มีกำหนดฉายในช่วงเวลาเดียวกัน ใครจะเป็นผู้คว้าเรตติ้งไปครอง มือเก๋าเจ้าของผลงานสุดฮิตในอดีตที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ หรือคลื่นลูกใหม่ที่พร้อมพัดกระหน่ำวงการอนิเมะให้สั่นสะเทือน

สำหรับคอหนังญี่ปุ่นยุคก่อน ๆ คำว่า “Feel Good” ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญมาก ๆ แต่ระยะหลัง ๆ หนัง Feel Good จากแดนปลาดิบ ก็ไม่ได้หาง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนทำหนังรุ่นใหม่ ๆ ก็มีแนวความคิดที่แตกต่างไปจากเดิม หนังญี่ปุ่นเริ่มมีกลิ่นอายของตะวันตกมากขึ้น มีความสากลมากขึ้น มีรสชาติที่แปร่ง ๆ ไป ไม่ได้เป็นรสมิโซะซุปดั้งเดิมเหมือนแต่ก่อน เหมือนเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคใหม่ของหนังญี่ปุ่น ซึ่งกำลังหาความลงตัวให้เจอ ระหว่างสิ่งดี ๆ เดิม ๆ ที่มีอยู่ กับความสมัยใหม่ที่ต้องการสอดแทรกเข้าไปในหนัง

และ Haken Anime วัยชน คนเมะ ถือเป็นหนึ่งในหนังญี่ปุ่นยุคใหม่ที่เริ่มมีส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับความเห็นส่วนตัวของ “หมีเช” ยังคงมีความ Feel Good ที่ทำให้เราหลงรักหนังญี่ปุ่นหัวปักหัวปำ แต่ก็มีความสมัยใหม่ ความแปลกใหม่ ความทันสมัย ในการนำเสนอ ที่ไม่ได้เรื่อย ๆ เอื่อย ๆ นิ่ง ๆ มีความกระชับฉับไว มีความกระฉับกระเฉง มีการตัดต่อที่หวือหวา น่าสนใจ และยังมีสีสันความฉูดฉาดที่เกิดจากอนิเมะในหนังด้วย

กับความยาว 2 ชั่วโมง 8 นาที ที่เหมือนจะนาน แต่ตอนนั่งดู “หมีเช” ไม่ได้รู้สึกว่านานขนาดนั้น อาจมีเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบ้าง ต้องเปลี่ยนอิริยาบถหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีความคิดหรือความรู้สึกเลยว่า หนังนานจัง เมื่อไหร่จะจบว้า… ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งกับการดูหนังหลาย ๆ เรื่อง แต่กับ Haken Anime มีแต่ความคิดที่จะมุ่งหน้าไปพร้อม ๆ กับคนทำหนังสู่ตอนจบของเรื่องที่หวังว่าจะสวยงาม น่าจดจำ

จุดแข็งของ Haken Anime

คือการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังที่ทุกคนไม่เคยรู้มาก่อน กว่าจะเป็นอนิเมะสักเรื่องหนึ่ง ต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอะไรบ้าง นี่คือสิ่งที่คนรักอนิเมะแทบทุกคนอยากรู้ และการที่หนังคนแสดงเรื่องนี้ มีอนิเมะอีก 2 เรื่องทับซ้อนอยู่ ทำให้เหมือนดูหนังเรื่องเดียว แต่ได้ดูอนิเมะอีก 2 เรื่องด้วย คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มค่าตั๋ว

และอนิเมะในเรื่องก็ไม่ได้ทำผ่าน ๆ แบบขอไปที แต่ทำแบบจัดเต็มพิกัด ด้วยฝีมือของ Toei Animation และสตูดิโอชื่อดังในญี่ปุ่นอีกมากมาย ที่มาร่วมสร้างอนิเมะที่ใช้ประกอบในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น Production I.G ที่มาพร้อมกับผู้กำกับมากความสามารถอย่าง โคเฮอิ โยชิโนะ ที่เคยผ่านงานดูแล CG ให้กับอนิเมะสุดฮิตที่ทำรายได้ถล่มทลายทั่วโลกอย่าง YOUR NAME มาแล้ว ทีมนักพากย์ก็จัดเต็มเอาคนดัง ๆ มาพากย์เพียบ เหมือนทำหนัง 1 เรื่อง อนิเมะ 2 เรื่องแบบจริงจัง แต่นำมาควบรวมฉายในหนังเรื่องเดียว เข้มข้นยิ่งกว่าเอสเพรสโซ่

ด้านนักแสดงในเรื่องก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะ ริโฮะ ขวัญใจของหมีเช ที่ได้โชว์สกิลความสามารถด้านการแสดงอย่างเต็มที่ เนื่องจากหนังไม่ได้พึ่งพาความสวย เซ็กซี่ น่ารักของ ริโฮะ สักเท่าไหร่ จะบอกว่าเป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของ ริโฮะ ก็ไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด แฟนคลับของสาวริโฮะ ห้ามพลาดจริง ๆ ส่วน โทโมยะ ก็หล่อได้ใจเหมือนเดิม แต่เรื่องนี้ต้องยอม ทาสุคุ ที่หล่อมาก หล่อที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา รับประกันสาว ๆ จะชื่นชอบ ทาสุคุ มากขึ้น บทส่งสุด ๆ นอกจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งนักแสดงที่น่าจับตามอง คือ มาริกะ คูโนะ ที่รับบทไอดอลที่ต้องมาพากย์อนิเมะในเรื่อง แต่โดนดูถูกว่าฝีมือไม่ถึง ตัวจริง คูโนะ นอกจากเป็นนักแสดง เธอยังเป็นนักร้องด้วย รวมทั้งเคยพากย์อนิเมะมาก่อน ตอนแสดงในเรื่องนี้ พูดปกติยังเหมือนพากย์อนิเมะอยู่เลย เสียงน่ารักมาก

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจจาก Haken Anime ก็คือพลานุภาพของคำว่า “ทีม” การทำงานเป็นทีมสามารถสร้างพลังมหาศาลได้จริง ๆ ไม่ว่าอุปสรรคจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็สามารถก้าวข้ามไปได้ เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามคำว่า “ทีม” ครับ การฉายเดี่ยวมันเหนื่อย ถ้าคุณมีทีมที่ดี ก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น

จุดอ่อนของ Haken Anime

การที่มีหนัง 1 เรื่อง อนิเมะ 2 เรื่องรวมอยู่ด้วยกัน นอกจากข้อดี มันก็มีข้อเสียอยู่ด้วย มันทำให้อรรถรสในการเสพเนื้อเรื่องเกิดอาการสะดุด และไปได้ไม่สุดทาง

และเมื่อมันเป็นหนังที่เล่าถึงอาชีพเฉพาะทาง คนที่ไม่ได้อินอะไรกับอนิเมะ ก็จะไม่สามารถเข้าถึงหนังเรื่องนี้ได้เต็มอิ่ม

4.5/5
หากคุณเคยต้องน้ำตารื้น เพราะอนิเมะมาก่อน นี่คือหนังที่ถูกจริตกับคุณแน่นอน ไม่ใช่แค่ความสนุกเท่านั้น แต่ยัง Feel Good ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ ดูหนังเรื่องเดียว แต่เหมือนได้ดูอนิเมะอีก 2 เรื่องด้วย (จนรู้สึกอยากให้สร้างอนิเมะ 2 เรื่องนั้นออกมาจริง ๆ เลย) ดูหนึ่งเหมือนได้สาม คุ้มค่าตั๋วสุด ๆ แต่หนังเรื่องนี้ฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการเท่านั้น เช็กรอบเช็กโรงกันให้ดี ๆ ตั้งแต่ 15 กันยายนนี้ เป็นต้นไป

HakenAnime #วัยชนคนเมะ

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : หมีเช
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : DEXclub