คู่รักหนุ่มสาวหวังสร้างครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกน้อยเป็นความหวังของพ่อแม่ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร พ่อแม่ก็จะเลี้ยงดูให้ดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ ดั่งเช่น นายต้น สีประเสริฐ อายุ 44 ปี และนางปูน้อย ภูนาเชียง อายุ 34 ปี สองสามีภรรยาอยู่กินจนมีลูกน้อยเป็นพยานรักคือ น้องแป้ง เด็กหญิงชมพูนุช ภูนาเชียง ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ 2 เดือน
 
สามพ่อแม่ลูกอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 10 บ้านหนองหล่ม  ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ “น้องแป้ง” โชคร้ายป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาแต่กำเนิด หลังจากที่รู้ว่าลูกป่วยพ่อแม่กอดกันร่ำไห้ด้วยความสงสารที่ลูกเกิดมาไม่เหมือนเด็กคนอื่น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพ่อแม่ก็รักน้องแป้งดั่งดวงตาดวงใจ สัญญาจะทำเพื่อลูกให้ดีที่สุด ขอเพียงให้ลูกอยู่ด้วยกันไปนานๆ  



นางปูน้อย กล่าวว่า น้องแป้งผิดปกติทางร่างกายมาตั้งแต่กำเนิด โดยกล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้จึงกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องให้อาหารเหลวทางสายยาง และให้ออกซิเจนช่วยในการหายใจตลอดเวลา หมอบอกว่าลูกไม่มีโอกาสหาย ซึ่งตนกับสามีก็จะไม่ยอมแพ้ จะเลี้ยงดูลูกอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ทุกคืนก่อนนอนหนูก็ได้แต่อธิษฐานขอพรคุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์วิงวอนให้น้องแป้งสามารถเคลื่อนไหวและช่วยเหลือตนเองได้ เพราะหากน้องแป้งอาการดีขึ้น หนูก็คงจะมีเวลาไปหารับจ้างทำงานช่วยสามีอีกแรงจะได้มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายรักษาลูกต่อไป”



ตลอดเวลานายต้น พ่อของน้องแป้ง จะทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ทั้งรับจ้างทำนา ปลูกมัน ตัดอ้อย และเป็นคนงานก่อสร้าง ขอเพียงให้ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวและเป็นค่าใช้จ่ายของน้องแป้งซึ่งตกเดือนละประมาณ 12,000 บาท โดยเป็นค่าอาหารเหลว อาหารเสริม แพมเพิส ค่าเดินทาง ค่าเติมออกซิเจน และอื่นๆ

ที่ผ่านมารายได้ก็ไม่ค่อยจะพอกับรายจ่ายครอบครัวสักเท่าไหร่ และยิ่งมาเจอช่วงโควิดด้วยแล้วทำให้นายต้นมีงานรับจ้างน้อยลง เลยต้องหันมาหารายได้เสริมโดยการเรียนรู้วิธีเผาถ่านขายจนเกิดความชำนาญและคิดที่จะทำเป็นอาชีพแต่ยังขาดเงินลงทุน   

หลังทราบข่าวชีวิตที่ต้องดิ้นรถเพื่อลูกของสองสามีภรรยา นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และนายรุ่งโรจน์ ภูบัวนาค สมาชิก อบต.บ้านหนองหล่ม ได้เดินทางมาที่บ้านเพื่อเยี่ยมน้องแป้งและให้กำลังใจนายต้นกับนางปูน้อย  

นายวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง อบต.คลองขาม ร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และชาวบ้านได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายต้นและนางปูน้อยทั้งเงินสวัสดิการผู้พิการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เครื่องอุปโภค บริโภค และบริจาคคนละเล็กละน้อยช่วยเหลือปรับปรุงที่พักอาศัยโดยเฉพาะห้องนอนของน้องแป้งให้สะอาดถูกสุขอนามัย ทั้งนี้ตนจะประสานสำนักงานพัฒนาสังคมฯ กาฬสินธุ์ เพื่อให้นายต้นได้กู้เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งปลอดดอกเบี้ยมาลงทุนทำอาชีพเผาถ่านขายต่อไป

ด้านนายต้น กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ไปขอซื้อเศษไม้และไม้ยูคาลิปตัสจากชาวบ้าน ลงทุนครั้งละ 2,000 บาท ก้อนถ่านที่ได้จะบรรจุถุงพลาสติกจำหน่ายในหมู่บ้าน ราคา 3 ถุง 100 บาท มีผู้นำชุมชนและชาวบ้านช่วยอุดหนุนบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับขายดี เพราะเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยใช้ถ่านกันเท่าไหร่

“เงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้จะนำมาเป็นค่ารักษาน้องแป้ง ชีวิตนี้ไม่ขออะไรมาก นอกจากภาวนาให้น้องแป้งอยู่กับพ่อแม่ไปนานๆ มีอาหารกิน ได้รับการบำบัดรักษาต่อเนื่อง ถึงแม้ลูกจะพิการ ครอบครัวยากจนก็จะไม่ย่อท้อ ขอเพียงแต่ได้อยู่ด้วยทุกวัน เห็นหน้ากันทุกวัน ก็ถือว่ามีความสุขแล้วสำหรับครอบครัวเรา”



สำหรับผู้มีจิตอันเป็นกุศลต้องการทำบุญให้ความช่วยเหลือ “น้องแป้ง” สามารถติดต่อได้ที่ 093 318 1563 นางปูน้อย และ 061 117 4772 นายต้น หรือบริจาคผ่านบัญชี นางปูน้อย ภูนาเชียง (แม่น้องแป้ง) หมายเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขายางตลาด 035-3-65099-8

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม จ.กาฬสินธุ์
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่  [email protected]
คลิกอ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..