ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเทรนเนอร์ของ บาเยิร์น มิวนิก ได้ไม่สวยหรูนัก หลังจากพาทีมแพ้ไปถึง 3 จาก 4 นัดในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น โดยปราชัยให้กับ กลัดบัค 0-2, โคโลญจน์ 2-3 และนาโปลี 0-3 จากนั้นจึงมาเสมอ อาแจ็กซ์ 2-2 ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่ศึกบุนเดสลีกา ฤดูกาล 2021/22 จะเปิดฉากขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.นี้
เพื่อให้ทุกอย่างมันดูแย่ลงไปอีกก็ต้องเรียนแบบนี้ว่า นาเกลส์มันน์ คือกุนซือคนแรกของ บาเยิร์น ที่พาทีมทำผลงานได้ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ในช่วงปรีซีซั่น
แต่เพื่อความยุติธรรมก็ขอแก้ต่างให้สักหน่อย เพราะตลอดทั้ง 4 นัดที่ว่ามา นาเกลส์มันน์ ยังไม่มีบรรดาตัวทีมชาติที่ติดภารกิจกับทีมบ้านเกิดในช่วงซัมเมอร์ รวมทั้งแกนหลักจากฤดูกาลก่อนทั้ง ดาวิด อลาบา, เยโรม บัวเตง และฆาบี มาร์ตีเนซ ที่โบกมืออำลาทีมไปแล้ว โดยเหลือเพียงแค่นักเตะเยาวชน และแข้งใหม่อย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน กับ บูนา ซาร์ รวมทั้งดาวยิงตัวสำรองอย่าง เอริก มักซิม ชูโป-โมติง ให้เลือกใช้งานเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เราจึงพออนุมานได้ว่า ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นกว่านี้เมื่อ นาเกลส์มันน์ มีผู้เล่นแกนหลักให้เลือกใช้งานอย่างพร้อมหน้า
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า นาเกลส์มันน์ เข้ามารับไม้ต่อจาก ฮันซี ฟลิค ที่ขยับขึ้นไปคุมทีมชาติเยอรมนีแทน โยอัคคิม เลิฟ ในจังหวะเวลาที่ไม่ดีนัก เพราะนอกจากจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีการถ่ายเลือดนักเตะบางส่วนออกไปแล้ว มันยังเป็นช่วงเวลาที่ บาเยิร์น จำเป็นต้องรัดเข็มขัดอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อ “โควิด-19” อีกต่างหาก
จริงอยู่ที่ “เสือใต้” ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่ใช่สโมสรที่จะยอมเป็นหนี้เป็นสินเพื่อแลกกับการดึงนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมแกร่ง หรือ เสี่ยงที่จะทำให้ตัวเลขในบัญชีค่าเหนื่อยของสโมสรขยับขึ้นไปสูงเกินเพดานระดับ 356 ล้านยูโรในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ นาเกลส์มันน์ จึงน่าจะต้องทำงานโดยใช้นักเตะที่เป็นมรดกตกทอดจากยุคของฟลิคเป็นส่วนใหญ่เพราะข้อจำกัดจากสถานการณ์แวดล้อมดังที่เรียนให้ทราบกันไปแล้ว
กระนั้นทั้ง แม้จะเป็นทีมชุดเดิม แต่ บาเยิร์น ก็ยังแกร่งพอที่จะเดินหน้าคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา มาครองเป็นสมัยที่ 10 ติดต่อกัน และทุกคนใน อัลลิอันซ์ อารีนา ก็ยังเชื่อถึงขนาดว่า พวกเขามีลุ้นคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยซ้ำ หลังจากมองว่า พวกเขาเสียท่าให้ เปแอสเช และกระเด็นตกรอบอย่างโชคร้ายเพราะการได้รับบาดเจ็บของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายซีซั่นก่อน
งานนี้จึงน่าติดตามเหลือเกินว่า นาเกลส์มันน์ จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ในมือตอนนี้ โดยเฉพาะใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขาต้องพา บาเยิร์น เผชิญหน้ากับบรรดาคู่แข่งระดับมิลเลียนแนร์ที่ทุ่มเงินคว้านักเตะประเภทแข้งทองฝังเพชรเข้ามาเสริมแกร่งกันอย่างเอิกเกริกโดยไม่เกรงใจสภาพเศรษฐกิจอันย่ำแย่ในยุค โควิด–19 แม้แต่น้อย.
แท ยอน
