หลายคนคงเคยประสบปัญหาในชีวิตกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องสู้และเดินหน้าเพราะชีวิตต้องไปต่อ ซึ่งครอบครัวเป็นพลังแรงใจที่สำคัญ!!

อย่างครอบครัวของหนุ่มเชียงใหม่ นายวราวุธ เทพจันทร์ อายุ 45 ปี และนางผ่องศรี พรมจันทร์ อายุ 37 ปี ภรรยา ซึ่งเคยป่วยเป็นมะเร็งในช่องปาก จนต้องตัดลิ้นทำให้ตอนนี้พูดไม่ชัด และลูกชายวัย 11 ขวบ ที่ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4 กับลูกสาววัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นครอบครัวนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใด

สองสามีภรรยาหารายได้เสริมโดยการตั้งร้านขายข้าวไข่เจียวริมถนนในยามค่ำคืน จนมีคนนำเรื่องราวไปโพสต์ลงในโซเชียล ก่อนจะมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจและมาอุดหนุนจำนวนมาก

ช่วงค่ำคืนประมาณช่วงเวลา 4 ทุ่มจนถึงตี 2 ของทุกวัน นายวราวุธจะพาภรรยาและลูกทั้งสอง ขับรถกระบะขนอุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ เตาแก๊ส กระทะ และวัตถุดิบในการทำไข่เจียวหน้าต่างๆ เช่น แฮม หมูสับ ปูอัด เป็นต้น มาตั้งร้านขายอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลเฟสติวัล ริมถนนเชียงใหม่-ลำปาง ก่อนถึงสี่แยกศาลเด็กเชียงใหม่

แม่ค้าที่พูดไม่ชัด ทำเอาลูกค้าหลายคนสงสัย แต่เมื่อพูดคุยจึงรู้เรื่องราวชีวิตและชื่นชมในความเป็นคนสู้ชีวิตแถมรสชาติฝีมือทำไข่เจียวก็อร่อยมาก เมื่อรับประทานกับข้าวร้อนๆ ทำเอาลูกค้าหลายคนติดใจมาช่วยอุดหนุนกันไม่ขาดสาย

นายวราวุธ เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นไรเดอร์ขี่รถส่งอาหาร แต่ภรรยาป่วยเป็นมะเร็งที่ช่องปาก ทำให้ต้องรักษาตัวและต้องตัดลิ้นจึงพูดไม่ค่อยชัด ซึ่งภรรยาก็พักรักษาตัวมาประมาณ 1 ปี จนตอนนี้อาการดีขึ้น นอกจากนี้ลูกชายวัย 11 ขวบ ก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 ด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาได้พักรักษาตัวมาประมาณ 1 ปี และเพิ่งหมดคอร์สให้คีโมมาได้ราวๆ 2 เดือน

“ลำพังเพียงอาชีพไรเดอร์ขี่รถส่งอาหารของตนเพียงคนเดียว ก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของครอบครัว เมื่อภรรยาของตนหายดีจึงอยากที่จะแบ่งเบาภาระ โดยก่อนหน้านี้ทางภรรยาก็ได้รับทำข้าวไข่เจียวขายที่บ้านโดยขายผ่านโซเชียลแต่ก็ไม่ค่อยมีคนสั่ง จึงอยากออกมาขายเองจนได้ที่มาเปิดขายตรงบริเวณนี้”

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า หลังจากที่มีกระแสเรื่องราวของภรรยาปรากฏในโซเชียล ตนก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้รับการตอบรับ และมีคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็อยากขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันแชร์เรื่องราว และขอบคุณที่มาอุดหนุนข้าวไข่เจียวของภรรยา ซึ่งขณะนี้ตนตั้งใจว่าจะให้ภรรยามาขายตามที่ต้องการ โดยตนจะมาส่งในช่วงกลางคืนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม เนื่องจากไม่อยากให้ภรรยาลำบากขนของมาเองลำพัง

“แม้ชีวิตจะไม่ราบรื่น แต่เราสองคนก็จะไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิต เมื่อเห็นหน้าลูกยิ่งทำให้เรารู้ว่าจะยอมแพ้ไม่ได้ ต้องสู้เพื่อลูกทั้งสองคน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ครอบครัวเราก็เป็นกำลังใจให้กันเสมอ”

ขณะที่ลูกค้าที่มาต่อคิวซื้อข้าวไข่เจียวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้เห็นเรื่องราวของแม่ค้าบนโซเชียลที่มีการแชร์ต่อๆ กันมา จึงเกิดความเห็นใจและชื่นชมที่เป็นคนสู้ชีวิต จึงอยากมาช่วยอุดหนุน โดยตนได้ตั้งใจมารอตั้งแต่ยังไม่ตั้งร้าน ดีใจที่ได้มาอุดหนุน ส่วนรสชาติเมื่อลองรับประทานแล้วก็อร่อยถูกปาก ราคาเพียง 35 บาท จากนี้ก็คงได้เป็นลูกค้าประจำกันแล้ว

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ทิวลิป มหาวงค์ จ.เชียงใหม่
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..