เชื่อว่าแฟนลิเวอร์พูล ที่อดตาหลับขับตานอนรอดูเกมรับมือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ดูจบแล้วอาจตาค้างนอนไม่หลับกันเป็นจำนวนมาก…!!!
เพราะนอกจากจะโดนนำก่อนในครึ่งแรกแล้ว กว่า “หงส์แดง” จะได้ประตูชัยจาก ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ที่ยิงยัดใต้คานเข้าไปนั้น ก็ปาเข้าไปนาทีที่ 90+8 (โดยที่ผู้ตัดสินชูป้ายทดเจ็บ 5 นาที) เรียกว่าแทบจะเป็นสัมผัสสุดท้ายของเกมก็ว่าได้…
เกมรับมือ “สาลิกาดง” เมื่อวันพุธที่ผ่านมา น่าจะเป็นเกมที่ “เด็กหงส์” ทุกหมู่เหล่า มั่นใจในระดับหนึ่งว่าน่าจะไม่ถึงกับยากเย็น เพราะทีมกำลังมั่นใจหลังเพิ่งระเบิด บอร์นมัธ เละเป็นจุล 9-0 มาเมื่อสุดสัปดาห์ แม้ตัวเจ็บจะยังเต็มทีมก็ตาม
แถมที่สำคัญ “สาลิกาดง” ทีมเยือนยังขาดตัวหลักอย่าง บรูโน กิมาไรส์ และที่สำคัญคือตัวอันตรายอย่าง อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง ดันมาเจ็บจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ ลงไม่ได้อีกต่างหาก
แต่ที่ไหนได้ เกมนี้กลายเป็นการแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวยิงตัวใหม่ของ “สาลิกาดง” ที่ลงเล่นเกมแรกก็โชว์ความนิ่งเกินอายุในการจบสกอร์กับประตู 1-0 รวมถึงลูกที่เจ้าตัวหลุดไปยิงตุงตาข่าย แต่โดนวีเออาร์ริบคืนไปด้วย 2 จังหวะนี้แสดงให้เห็นว่ากองหน้าทีมชาติสวีเดนรายนี้ “มีของ”
ขณะที่ “หงส์แดง” ในครึ่งแรกนั้น แม้รูปเกมโดยรวมจะเหนือกว่า แต่สิ่งที่หายไปกลายเป็นเรื่องของ “จังหวะสุดท้าย”
ในขณะที่ครองบอลได้ ขึงเกมใส่ผู้มาเยือนได้ต่อเนื่อง แต่เหมือนมันขาด “การจ่ายบอลสุดท้าย” ที่จะนำไปสู่การยิงประตู และนั่นเป็นที่มาของโอกาสยิงโดยรวมในครึ่งแรกที่ ลิเวอร์พูล ได้ยิงแค่ 5 ครั้ง โดยที่ไม่เข้ากรอบเลย
ซึ่งถือว่าค่อนข้างผิดวิสัยของ “หงส์แดง” โดยเฉพาะเวลาได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์
และนั่นคือจุดที่ เจอร์เกน คลอปป์ แก้ไขลงมาอย่างชัดเจนในครึ่งหลัง แข้ง “หงส์แดง” เอาบอลไปข้างหน้ามากขึ้น เสี่ยงจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษมากขึ้น และมันก็นำมาซึ่งประตูตีเสมอของ โรแบร์โต ฟีร์มิโน ในที่สุด ซึ่งเป็นลูกที่ 3 ของดาวยิงบราซิเลียนจาก 2 นัดหลังสุด
หลังจากนั้น สิ่งที่ชัดเจนอย่างหนึ่งที่ได้เห็นคือเรื่องของสภาพร่างกายนักเตะ “สาลิกาดง” ที่เริ่มกระปลกกระเปลี้ยกันเป็นแถวจากการใช้พลังงานในการวิ่งไล่เพรสซิงมาตั้งแต่ต้นเกม มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่นักเตะทีมเยือนจะ “นอน” เป็นระยะ ๆ ในช่วงท้ายเกม ซึ่งจะเจ็บจริงเจ็บหลอกก็ไม่รู้ได้
แต่มันเป็นประเด็นที่ คลอปป์ ถึงกับเอามาพูดในการให้สัมภาษณ์หลังเกม ว่าการที่ “หงส์แดง” ได้ประตูชัยชนิดไม่มีเวลาให้ทีมเยือนแก้ตัวนั้น ถือเป็นการตอบโต้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับแทคติกการ “ถ่วงเวลา” ของทีมเยือน…!!!
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นชัยชนะที่หวุดหวิดจวนเจียนสิ้นดี แต่หนึ่งในแง่ดีที่เกิดขึ้นสำหรับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ คือ 2 นักเตะดาวรุ่งอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ผู้ยิงประตูชัยเป็นของขวัญวันเกิดหลังเพิ่งอายุครบ 20 ปีไปเมื่อวันอังคาร หรือ 1 วันก่อนเกม รวมถึง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ ซึ่งน่าแปลกที่ทั้งคู่ต่างแจ้งเกิดกับ ฟูแลม ก่อนย้ายมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ด้วยกันทั้งคู่
ที่สำคัญคือทั้งคู่ไม่ใช่เพิ่งดีในเกมนี้ แต่ดีมาตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น จากการที่ตัวหลักหลายคนเจ็บ ทำให้ทั้งคู่ได้โอกาสลงโชว์ฝีเท้า และก็สามารถตอบแทนความไว้วางใจของ เจอร์เกน คลอปป์ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีประตูด้วยกันแล้วทั้งคู่ในฤดูกาลนี้
ส่วนสำหรับแฟน ๆ “หงส์แดง” นั้น หลายคนพอใจกับ 3 คะแนน แต่หลายคนก็บอกว่าต่อไปขออย่าให้ต้องลุ้นกันจนตัวโก่งแบบนี้บ่อย ๆ
มันไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพหัวใจเลยแม้แต่น้อย…
เครดิตภาพ : REUTERS
