“ทุลักทุเล” น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดในการบรรยายว่าชัยชนะ 4 นัดรวดของ อาร์เซนอล หลังเฉือนหวิว ฟูแลม 2-1 มันยากเย็นเพียงใด
เกมที่ไม่ควรจะตื่นเต้นกลายเป็นตื่นเต้นเกินจินตนาการ
หลังจากที่ยึดชุดเดิม 3 นัดติด อาร์เซนอล เปลี่ยนแปลงทีมเป็นครั้งแรก เนื่องจาก โอเลคซานเดอร์ ซินเชนโก และ โธมัส ปาร์เตย์ บาดเจ็บ
ถึงกระนั้นพวกเขาก็เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ ฟูแลม ตั้งแต่นาทีแรก ต่อบอลมากกว่า ครองบอลมากกว่า แต่อุปสรรคสำคัญคือการสร้างโอกาสในพื้นที่สุดท้ายที่มีไม่มาก เนื่องจากทีมเยือนตั้งรับลึก เหนียวแน่น พวกเขายังมีความมั่นใจเหมือนเจ้าบ้านที่ยังไม่แพ้ใคร
ครึ่งแรกเจาะไม่เข้า ครึ่งหลังเดินหน้าบุกแล้วบุกเล่าก็ยังเจาะไม่เข้า ลูกตั้งเตะที่ทำให้ได้ประตูมาทุกนัดก็ยังไม่ออกฤทธิ์ แถมนาที 56 กาเบรียล มากัลเญส ทำให้มันแย่ขึ้นไปอีก เมื่อพลาดเสียบอลในหน้าประตูตัวเองก่อนโดนมิโตรวิชฉกเข้าไป
เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จริง แต่แฟนปืนใหญ่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ หรือเราจะแพ้นัดแรกคาบ้าน?
กัปตัน มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ทำดีมาทั้งเกม ไม่ว่าโยนบอล วางบอล ไล่บอล กระตุ้นเพื่อน ยิงประตูตีเสมอนาที 64 อาร์เซนอล ใส่เกียร์ห้าลุยแหลกกระทั่งนาที 85 ประตูจากลูกเตะมุมหนที่ 3 ของซีซั่น
มากัลเญส ได้ล้างบาป ซัดเผาขนแซงชนะ 2-1 ในเกมที่ฝรั่งใช้คำว่า emotional หรือเต็มไปด้วยความรู้สึก
12 แต้มเต็มจาก 4 นัด พวกเขาคือผู้ท้าชิงแชมป์แล้วหรือยัง?
ก็ต้องบอกว่ายัง หากไม่หลอกตัวเองเกินไป 4 นัดแรกของ อาร์เซนอล ยังไม่ได้หนักหนา หรือจะเรียกว่ายังไม่เจอบทดสอบที่แท้จริงก็ว่าได้
กลางสัปดาห์นี้หากเปิดบ้านชนะ แอสตัน วิลลา ก็ยังอยู่ในวิสัยที่ควรทำได้
แต่เกมถัดไปนั้น หากชนะได้อีก ผมเชื่อว่ามันคือการประกาศเป็นทางการได้เลยว่าปีนี้ อาร์เซนอล เอานะเว้ย!
เพราะมันคือเกมออกไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บางคนอาจบอกว่ายังอยู่ในช่วงจูนทีม แต่อย่าลืมว่ามันจะเป็นเกมใหญ่มาก อย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล ก็เพิ่งบุกมาว่า อย่าลืมว่ามันคือเกมทดสอบจิต ทดสอบประสาทของนักเตะวัยหนุ่มอาร์เซนอล
หากพวกเขารวมใจกันคว้าชัยชนะถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนนั้นนอกจากจะเป็นการชนะ 6 เกมติด แต่ยังพิสูจน์ว่า ไม่ใช่แค่ร่างกายที่พร้อม แต่หัวใจก็พร้อมสำหรับเกมยาวแบบมาราธอนนี้