จากการที่ช่วงนี้มีวาฬบรูด้าทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ มาหากินอวดโฉมบริเวณปากอ่าวแม่กลอง เขตจังหวัดสมุทรสงคราม น.ส.สุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ. สมุทรสงคราม จึงนำผู้เกี่ยวข้อง เช่น ร.ท.พัชโรดม อุนสุวรรณ ที่ปรึกษานายก อบจ.ด้านการท่องเที่ยว นายพิสิษฐ์ หงส์หาญ ประธานชมรมรัก ณ แม่กลอง ลงเรือยอชท์นำเที่ยวไปชมวาฬฝูงนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลดอนหอยหลอดประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยความเร็วเรือ 7-8 นอตหรือ 12-14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พบวาฬบรูด้าทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก 4-5 ตัว ลักษณะเป็นครอบครัวกำลังไล่ล่าเหยื่อลักษณะร่วมกันตีวงโอบล้อมต้อนเหยื่อให้มารวมกันก่อนจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอ้าปากกว้างให้เหยื่อเข้าปากนานครั้งละ 10-15 วินาที ทำให้ผู้พบเห็นต่างถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยความตื่นเต้น
ร.ท.พัชโรดม กล่าวว่า วาฬบรูด้าถือเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งทะเลไทยที่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้โดยไม่ทำอันตราย บริเวณที่พบวาฬบรูด้าน่าจะมีอาหารประเภทแพลงก์ตอน ปลากะตัก และปลาทูจำนวนมาก จึงทำให้วาฬบรูด้าฝูงนี้ที่ปกติมักจะหากินในทะเลพื้นที่ จ.เพชรบุรี และ จ.สมุทรสาคร ย้ายถิ่นฐานมาหากินบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ที่ผ่านมาพบเห็นไม่บ่อยนัก ดังนั้นการปรากฏตัวของวาฬบรูด้าที่ปากอ่าวแม่กลอง ถือเป็นสิ่งใหม่ที่เป็นเรื่องดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.สมุทรสงคราม โดยเฉพาะชาวประมงที่ประสบปัญหาราคาน้ำมันแพงหรือเรือที่จอดออกหาปลาไม่ได้ หากนำเรือประมงมาดัดแปลงพานักท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้าก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้ชาวประมงมีรายได้อีกทางหนึ่ง แต่ชาวประมงถนัดจับปลา ไม่ถนัดที่จะพานักท่องเที่ยวไปชมปลา จึงต้องมีการอบรมให้รู้วิธีการต่าง ๆ ในการพานักท่องเที่ยวไปชมวาฬ ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ให้กับครอบครัว
นายพิสิษฐ์ หงส์หาญ ประธานชมรมรัก ณ แม่กลอง กล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ดอนหอยหลอดสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.สมุทรสงครามซบเซามานานเมื่อวาฬบรูด้ามาหากินใกล้กับดอนหอยหลอด จึงคิดว่าน่าจะต่อยอดเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เพื่อให้ดอนหอยหลอดกลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงประสาน นายก อบจ.สมุทรสงครามให้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวดูวาฬบรูด้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชาวบ้านในพื้นที่อีกทางหนึ่ง
น.ส.สุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่าทราบจาก “ชมรมรัก ณ แม่กลอง” ว่ามีวาฬบรูด้าหลายตัวเข้ามาหากินบริเวณปากอ่าวแม่กลอง จึงได้นำผู้เกี่ยวข้องนั่งเรือออกมาพิสูนจ์ ปรากฏว่าพบวาฬบรูด้าที่ถือว่าเป็นสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ดึกดำบรรพ์ที่น้อยคนจะได้มีโอกาสพบเห็น ที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหยุดการเดินทางส่งผลให้ท้องทะเลฟื้นตัว กอปรกับมาตรการปิดอ่าวของกรมประมงทำให้ปลาชุกชุมมากขึ้น จึงเป็นอาหารชั้นดีของวาฬบรูด้า ปีนี้จึงพบวาฬบรูด้าเข้ามาบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ทาง อบจ. จึงลงพื้นที่สำรวจเพื่อเตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเลกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเตรียมโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือหน้าวัดศรัทธาธรรม ต.บางจะเกร็ง หรือที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อสะดวกในการขึ้นลงเรือ พร้อมจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ที่จะนำเรือประมงมาดัดแปลงเป็นเรือนำเที่ยว วิธีการพาชมวาฬบรูด้า รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะส่งเสริมการต่อยอดท่องเที่ยวแบบครบวงจร เช่น จัดทริปดูวาฬบรูด้า หยอดหอยหลอด ถีบกระดานเลน และชิมอาหารทะเล เป็นต้น
นายปริญญา ผดุงถิ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านวาฬบรูด้า กล่าวว่าช่วงนี้ปิดอ่าวจึงสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล เหยื่อของวาฬจึงมีมหาศาลทำให้วาฬตามปลาเหล่านี้เข้ามาในเขต จ.สมุทรสงคราม ส่วนช่วงไฮซีซั่นการดูวาฬบรูด้านั้น ตนแนะนำว่าต้องดูหน้าฝน เนื่องจากน้ำหลากจะพัดสารอาหารเข้ามาที่ปากอ่าวแม่กลองทำให้ปลาเล็กมาหากินใกล้ฝั่ง วาฬจึงตามเข้ามาเช่นกัน ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นปัจจุบันมีเทคโนโลยีตรวจสอบสภาพอากาศจนมั่นใจว่าปลอดภัยทางเราจึงจะนำนักท่องเที่ยวออกไปชมวาฬ สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรเตรียมนำติดตัว คือ หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด ที่สำคัญกล้องถ่ายภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเรือจะออกจากท่าเรือหน้าวัดศรัทธาธรรม ต.บางจะเกร็ง อ.เมืองสมุทรสงคราม เวลา 08.00 น. และกลับ 16.00 น. วันเดียวกัน ค่าบริการรวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าเรือและค่าประกันชีวิต ผู้ใหญ่คนละ 2,500 บาท เด็ก 1,500 บาท หรือเหมาลำ 30,000 บาทต่อ 15 คน ผู้สนใจติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 09-0197-7521
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก ระบุว่าอาหารหลักของวาฬบรูด้า คือปลากะตักแก้ว ปลากะตักควาย ปลาทู และเคยโกร่ง ซึ่งระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน จะเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นช่วงเวลาที่วาฬบรูด้าว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำทะเลบ่อยที่สุด จึงเหมาะกับการออกไปชมวาฬบรูด้า ที่ผ่านมามีการจัดเทศกาลชมวาฬบรูด้าขึ้นในพื้นที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นประจำด้วย สำหรับพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม พบวาฬบรูด้ามาหากินบริเวณปากอ่าวแม่กลองเหมือนกันแต่ไม่บ่อยนัก.
