เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ทีมฟุตซอลชาติไทย ชุดแชมป์อาเซียน ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความชื่นชมยินดี กับชัยชนะแชมป์อาเซียน ได้รับทราบว่าตั้งแต่ปี 2543 ก็ทำผลงานได้ดี จากนั้น นายกรัฐมนตรี สอบถามเรื่อง รูปแบบการแข่งขันของทีมชาติไทย รวมทั้งบอกนักกีฬาว่า “เห็นนักกีฬาแล้ว หนุ่มแน่น ดูท่าทางจะฟิต โดยกีฬาวันนี้ คือ ซอฟต์เพาเวอร์ ซึ่งไทยเราไม่มีซูเปอร์เพาเวอร์ มีอาวุธทันสมัยมากมายเหมือนประเทศใหญ่ๆ เรามีวัฒนธรรมที่ดีงาม เรามีกีฬาที่เป็นซอฟต์เพาเวอร์ เรามีกีฬากอล์ฟไประดับโลก เรามีมวย และเราก็มีฟุตซอล”

นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า ในการแข่งขัน นอกจากชัยชนะ ขอให้ได้เพื่อน บางประเทศแข่งแล้วมีเรื่องกัน ถือว่าไม่ดี พร้อมแนะนำให้นักกีฬาเรียนเพิ่มเติม เพื่อจะได้รองรับ ต่อไปจะเป็นโค้ช เป็นกรรมการ ให้คิดว่าเล่นกีฬาเพื่ออะไร คิดให้มากกว่าชัยชนะ เป็นการคิดทั้งทางตรงและอ้อม ตนได้คุยกับการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว ว่าบ้านเราต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งเพื่อพัฒนากีฬา ซึ่งคนไทยนั้นจะเล่นประเภทเดี่ยวเก่ง แต่พอเล่นเป็นทีมจะเริ่มมีปัญหา ดังนั้นก็พัฒนาการเล่นเป็นทีม บางคนหวงยิง ไม่ส่ง ก็เสียโอกาส นายกฯ อยากพัฒนากีฬาให้มากขึ้น เริ่มจากเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศก่อน ต้องร่วมมือกันทุกๆ ฝ่าย อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคิดว่าจะดูแลทุกคนให้ดีขึ้น เราเป็นประเทศประชาธิปไตย ต้องทำทุกๆ สิ่งให้ถูกต้อง ก็ต้องใช้เวลา

พล.อ.ประยุทธ์ ถาม มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ว่าไปต่างประเทศได้ค่าเหนื่อยเท่าไหร่ เจ้าเหม็ด ตอบว่า “ไม่เยอะครับ” นายกฯ ถามเป็นล้านไหม เจ้าตัวบอกไม่ถึง จากนั้น นายกรัฐมนตรี ที่ทราบว่า “กัปตันช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว พาทีมไทยประสบความสำเร็จมากมายกว่า 10 ปี ก็ถามว่า อยากได้อะไรบ้างก็บอก แต่ ทหารตำรวจก็รองรับ ก็ช่วยเหลือรองรับ

จากนั้นทีมฟุตซอลไทยได้มอบเสื้อหมายเลข 12 ปักชื่อว่า จันทร์โอชา เป็นภาษาอังกฤษ ให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งหมายเลข 12 เป็นหมายเลขนักเตะในตํานานฟุตซอลอย่างฟัลเกา ทีมชาติบราซิล พล.อ.ประยุทธ์ ได้หยอกล้อกับนักเตะ และเล่าให้ฟังว่า ก่อนนี้เพิ่งเล่นฟุตบอลกับคนตาบอดมา แบบลูกบอลที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง ยังวิ่งไล่ไม่ทันเลย ก่อนมอบของที่ระลึก พระเครื่องสิงห์ปราบมาร และไดอารี่ สำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดคุย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และแซวว่า กกท.มีเงินพอใช้ใหม ก่อนจะหัวเราะ.