เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.​ พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ก. 3 เขต ประกอบด้วยนายเอกกวิน โชคประสพรวย ผู้สมัคร ส.ก.เขตราชเทวี หมายเลข 1 นายกัณตภณ ดวงอัมพร ผู้สมัคร ส.ก.เขตดินแดง หมายเลข 5 และนายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท หมายเลข 7 ลงพื้นที่บริเวณ​อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ​เพื่อพบปะประชาชนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ​ และพ่อค้าแม่ค้าที่อยูในบริเวณดังกล่าว

โดยนายวิโรจน์ กล่าวถึง สถานการณ์ช่วงหลังสงกรานต์ ที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า คงใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามปกติ แต่ขอฝากถึงรัฐบาลว่า เป้าหมายสูงสุดคือการฉีดวัคซีนการเตรียมความพร้อมในเรื่องของยารักษา และการรักษาผู้ป่วย ประชาชนต้องการฉีดวัคซีนเพื่อคืนชีวิตปกติ รัฐบาลจะต้องมีกลยุทธ์ที่จะเปิดเมือง เปิดเทศกาล เปิดชีวิตที่ปกติให้กับประชาชนให้ได้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อคนติดโควิดจะคิดการรักษา จึงต้องเตรียมรองรับให้พร้อม เพื่อให้ประชาชนรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยต่อชีวิต

นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีประชาชนมาใช้บริการชนส่งสาธารณะค่อนข้างเยอะ ตนมองว่าตรงนี้ควรมีการอำนวยความสะดวกเรื่องความสะอาด และการจัดระเบียบ ส่วนเรื่องรถขนส่งสาธารณะ ที่น่าจะต้องปรับปรุงคือพื้นที่ที่รถเมล์ยังเข้าไม่ถึง เช่น เขตคลองสามวา ที่มีรถเมล์ไม่กี่สายที่ผ่าน เป็นต้น กทม.ก็ต้องดูว่ามีเอกชนเข้าไปเดินรถ และทำตั๋วคนเมืองที่ทำให้ประชาชนจ่ายค่าบริการได้ถูกลง แต่ถ้าหากไม่มีบริษัทเดินรถจริงๆ ก็ต้องเป็นบทบาทของกรุงเทพธนาคม ที่จะต้องขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อวิ่งรถเมล์ในราคาที่ถูกและดี และประชาชนเข้าถึงได้

นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับแนวนโยบายเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้หญิง สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือ กล้องวงจรปิดและไฟส่องสว่าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้างหรืออุปกรณ์ แต่คือความเป็นธรรมที่ทุกเพศทุกวัยต้องเข้าถึงหลักฐานในการปกป้องสิทธิของตนเองได้ ไม่ใช่แค่คนมีเงินที่จะเข้าถึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิดได้รวดเร็ว แต่ประชาชนทุกคน ต้องเข้าถึงข้อมูลตรงนี้ได้รวดเร็วเช่นกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดในสังคมนี้ต้องร่วมกันคือเลิกที่จะต่อว่าเหยื่อ และต้องร่วมกันปกป้องเหยื่อ.