เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เวลา 11.00 น. ที่วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 11 และนายเจนณรงค์ ซาก้า ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 5 เขตดุสิต พรรค ทสท. ร่วมงานประเพณีสงกรานต์ประจำปี 65 เขตดุสิต ลุยขอคะแนนให้ ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 และ ส.ก.ไทยสร้างไทย หมายเลข 5 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ประชาชนต่างเข้ามากอดและจับมือ บอกว่าขอให้ น.ต.ศิธา มาเป็นผู้ว่าฯ คนใหม่ให้ได้ เพราะเชื่อมั่นในทีมสุดารัตน์

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ตนจะชูนโยบาย “Connect & Protect” ปรับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นกำแพงกั้นสูงปิดบังทัศนียภาพของบ้านเรือนริมน้ำมาออกแบบใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งการป้องกันน้ำท่วม เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียว ใช้ออกกำลังกาย ทำพื้นที่กิจกรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม “Cultural Tourism” พร้อมเชื่อมโยง และเปิดพื้นที่ชุมชนริมน้ำ ให้สามารถค้าขายสร้างรายได้ให้คนในชุมชนเป็น “Community retail space” โดยยึดหลักการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยฟังเสียงและความต้องการของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก อย่างเช่น พื้นที่เขตดุสิต สามารถนำร่องเป็นพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่ โดยเฉพาะที่วัดจันทรสโมสร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชน “Cultural Tourism” สร้างรายได้โดยเปิดพื้นที่ค้าขาย “community Retail Space” ต่อยอดให้คนนอกพื้นที่ รู้จักของดีเขตดุสิตมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้คนในเขตดุสิต

โดยพื้นที่เขตดุสิต มีศักยภาพของชุมชนริมน้ำ ซึ่งต้องปรับพื้นที่ริมแม่น้ำ ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการสร้างโอกาสให้คนดุสิต โดยเห็นว่าบริบทและภูมิศาสตร์ของเขตดุสิต เป็นเขตที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยายาวตลอดเขต รวมถึงพื้นที่บริเวณริมคลองสาธารณะ 17 แห่ง ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำมีบทบาทในวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวดุสิตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชุมชน เส้นทาง การคมนาคม รวมถึงสถานที่สำคัญ เช่น วัด พิพิธภัณฑ์ และท่าเรือ นอกจากนี้ พื้นที่เขตดุสิต ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และริมคลอง หลายแห่งในเขตดุสิตยังสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตคนในชุมชน และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้เขตดุสิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถปรับปรุงและยกระดับให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น บริเวณวัดจันทรสโมสร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2386 มีประวัติความเป็นมาคู่กับชุมชนยาวนานถึง 179 ปีและเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับ ชุมชน และโรงเรียนระดับปฐมศึกษา โดยพื้นที่รอบวัด โรงเรียน และ ชุมชน สามารถนำมาปรับปรุงเป็นพื้นที่เชื่อมต่อวัฒนธรรมและพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ร่วม ของ บ-ว-ร หรือ บ้าน วัด และ โรงเรียน ผ่านการปรับปรุง เปลี่ยนภูมิทัศน์ที่เสื่อมโทรมให้กลายไปเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ โดยการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำภายในวัดให้เป็นสวนสาธารณะ และพื้นที่สีเขียวเพื่อสุขภาพ และสามารถปรับปรุงให้เป็นทางวิ่งหรือทางจักรยาน ให้ประชาชนในเขตดุสิต สามารถมาออกกำลังกาย และรับอากาศบริสุทธิ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้นอกห้องเรียน ทำให้เยาวชนชาวดุสิตได้เรียนรู้อัตลักษณ์ชุมชน ผ่านการทำศูนย์การเรียนรู้ชุมชน สนามเด็กเล่น และลานกีฬา เพื่อพัฒนาทักษะ และส่งเสริมสุขภาพให้กับนักเรียนภายในและนอกชุมชน ให้ห่างไกลยาเสพติดโดยการออกแบบนั้น ต้องมาจาก People First Design Thinking โดยต้องเข้าใจบริบทและออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์และ อัตลักษณ์ชุมชน สร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในท้องถิ่นและต่อยอดโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต ออกแบบโดยคำนึงถึงผลระทบที่มีต่อแม่น้ำมากที่สุด พัฒนาพื้นที่ร่วมกับชุมชน ทั้งภาครัฐ และประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้พื้นที่ร่วมกัน และเป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึง.