10 ที่เที่ยวสายมูต้องไม่พลาดเปิดเคล็ดขอพรรับสงกรานต์

ก้าวสู่วันปีใหม่ไทยอีกครั้ง !! ถือเป็นสัญญาณ “ส่งความสุข” ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ทั้งฤกษ์งามยามดี ทั้งมีวันหยุดยาว ให้คนไทยได้ปลดปล่อย หลังจากอัดอั้นเดินทางท่องเที่ยวกันมากว่า 2 ปี จากพิษของไวรัสร้ายโควิด-19 สารพัดสายพันธุ์ระบาดกระจายไปทั่ว แต่เวลานี้คนไทย เริ่มวัคซีนเต็มแขน 2-3 เข็ม !! กล้าเดินทางฉลองปีใหม่กันแล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังเป็นแหล่งยอดฮิตอันดับต้น ๆ ถือว่า..ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระพุทธรูป เทพ ตำนานบุคคล ยิ่งเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นปีใหม่ไทย หลายคนมีความเชื่อ ต้อง “มูเตลู” เพื่อให้ชีวิตปัง ๆ เฮง ๆ เพิ่มพลังชีวิตเปล่งรัศมีออร่า มีชื่อเสียงดี โกยเงิน โกยทอง

’ทีมเศรษฐกิจ เดลินิวส์“ ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว เที่ยวไปด้วย…มูไปด้วย ไปที่ไหนบ้างไปดูกัน???

ปาฏิหาริย์หลวงพ่อทันใจไม่รู้จบ

เริ่มจาก… สถานที่ยอดฮิตตลอดกาล หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ในแต่ละวันผู้คนหลั่งไหลขึ้นมานมัสการหลวงพ่อทันใจกันเป็นจำนวนมาก จะได้เห็นดอกมะลิกองพะเนินไหลยาว เพื่อขอพร ทั้ง เรื่องของโชคลาภ หน้าที่การงาน และเรื่องของธุรกิจ

วิธีการขอพรหลวงพ่อทันใจ ขอให้ตั้งมั่นอธิษฐาน บอกกล่าวปัญหาและสิ่งที่อยากได้ออกไป ครั้งละหนึ่งเรื่องเท่านั้น ขอย้ำว่า หนึ่งเรื่องเท่านั้น ห้ามละโมบโลภมากขอหลายเรื่อง และเมื่อสำเร็จผลตามที่ปรารถนาแล้ว ค่อยกลับมา นำพวงมาลัยดอกมะลิ ที่หาซื้อได้ตลอดเส้นทางก่อนขึ้นมาถึงวัด นำมาไหว้ท่านตามจำนวนที่เคยบอกเอาไว้ มีตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไป จนถึงหลักพันหลักหมื่น หลักแสนพวงตามกำลังของคนขอ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นทันใจบ่อยครั้งนี้เลื่องลือไปไกล จนหลวงพ่อทันใจ ของวัดพระธาตุดอยคำ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนตั้งใจมากราบไหว้ขอพรเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่

แลนด์มาร์คใหม่พระไดบุตสึ

แรกเห็น…คิดว่า อยู่ประเทศญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้ว องค์พระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่นี้ ศิลปะแบบญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายกับองค์พระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุดอยพระฌาน ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดลำปางในขณะนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 62 วัสดุการสร้างองค์พระใหญ่นั้นทำจากทองแดง เมื่อทำปฏิกิริยากับอากาศ องค์พระใหญ่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวอมฟ้างดงามตามธรรมชาติ โดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกลบนเนินเขาของวัดพระธาตุดอยพระฌาน ภายในบริเวณวัดยังมีสถาปัตยกรรมในสกุลช่างลำปางที่น่าชมหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปประธานในวิหาร รวมถึงพระธาตุเจดีย์ และซุ้มประตูโขง และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์มุมสูงแบบ 360 องศา มองเห็นได้ไกล ถึงสามอำเภอ อำเภอแม่ทะ อำเภอเกาะคา และอำเภอเมือง ยิ่งในช่วงเช้าของฤดูหนาวหรือฤดูฝนอาจได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยท่ามกลางสายหมอกอีกด้วย

ตามหารักเทพคิวปิดเมืองไทย

สำหรับคนที่ตามหารัก ไปตามหาเทพเจ้าความรักตัวน้อย คิวปิด ที่ซ่อนกายอยู่ในวัดหลายแห่งในเขตอำเภอเมือง เช่น วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ซึ่งเป็นวัดสำคัญของจังหวัดลำปาง เคยประดิษฐานพระแก้วมรกตมาแล้วในอดีต ในวัดมีเจดีย์สีทองสง่า และพระมณฑปที่โดดเด่นด้วยศิลปะพม่า หลังคาช้อนกันเจ็ดชั้น งดงามด้วยลายไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกอ่อนช้อย ในลวดลายเพดานจะได้พบกับกามเทพคิวปิดโบยบินอยู่ โดยผลงานของช่างเมียนมาที่สร้างสรรค์ไว้ อันเป็นมรดกของการผสมผสานทางวัฒนธรรมดูงดงามลงตัว ขณะที่ วัดศรีชุม จังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งวัด ที่สามารถพบกับเทพคิวปิดได้ เทพคิวปิดยืนพนมมือยืนบนพระจันทร์เสี้ยวที่ประดับบนบานประตู ดูน่ารักน่าเอ็นดู วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดศิลปะเมียนมาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างจากมัณฑะเลย์นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

หลวงพ่อขุนด่านแคล้วคลาด

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ หลวงพ่อขุนด่าน อ.ด่านช้าง จังหวัด สุพรรณบุรี ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยว จะไปถวายมีดดาบแทนศรัทธาต่อหลวงพ่อขุนด่าน แล้วไปนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ขอโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งการถวายดาบด้วยจิตใจที่เปี่ยมศรัทธา แด่พระพุทธสุพรรณมุนีศรีศาสดา หรือหลวงพ่อขุนด่าน เกิดจากความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า มีดดาบ จะช่วยฝ่าฟัน ตัดอุปสรรคขวากหนาม ให้หมดไปจากชีวิตได้ สามารถตัดทุกข์ ตัดเคราะห์ ให้เบาบางลง ทำให้เรื่องร้าย กลับกลายเป็นดี ความจริงเป็นปริศนาธรรมที่สอนให้ใช้ดาบตัดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้หมดไปในจิตใจนั่นเอง เมื่อทำได้แล้ว ก็จะพบกับความสุขสงบที่ตามมา ความศรัทธาที่เหนือคำอธิบายนี้ มองเห็นได้จากจำนวนของดาบแก้บนหลวงพ่อขุนด่านที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมายเหลือเกิน

หลวงพ่อรวย-สมหวัง-ทองคำ

ถ้านับตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญ ไม่มีใครไม่รู้จัก พระมงคลสิทธิจารย์ หรือ หลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้ท่านได้ละสังขารไปตั้งแต่ปี 60 แต่สรีรสังขารยังคงไม่เน่าเปื่อย ถูกบรรจุเอาไว้ในโลงแก้วที่มหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปกราบขอพร เพื่อเสริมสิริมงคล ขอให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ส่วนใหญ่จะไปเช่าวัตถุมงคล เลสเงิน เหรียญรุ่นต่าง ๆ และพระประธานในอุโบสถ พระพุทธสุวรรณมหาสิทธิโชค หรือ หลวงพ่อสมหวัง ปิดทอง เสริมดวง ขอให้โชคดี มีสุขสมหวังดังนามหลวงพ่อ กราบหลวงพ่อทองคำ ขอให้มีสมบัติเนืองนองเงินทองเพิ่มพูน กราบหลวงพ่อบุญญฤทธิ์ ให้ปลอดภัยทั่วทิศ และสักการะท้าวเวสสุวรรณ เทพแห่งการบันดาลโชค ลาภยศ อำนาจ วาสนา หน้าที่การงาน ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นับว่าเป็นสถานที่ที่มีครบทุกสิ่งที่เป็นมงคล

เซียนแปะโรงสีรวยไม่จบ!

พลังแห่งศรัทธาที่มีต่อเซียนแปะโรงสี หรืออาจารย์โง้ว กิมโคย ผู้มีเชื้อสายจีนในวัดศาลเจ้า อ.เมือง จังหวัดปทุมธานี วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ช่วยดลบันดาลความสำเร็จแก่ผู้ที่นับถือ สมัยที่ท่านมีชีวิตลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศจะขอให้ช่วยชี้แนะในเรื่อง ฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งบ้าน ห้างร้าน บริษัท ท่านก็จะช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้ย่างเข้าวัยชราก็ยังคงชี้แนะเหล่าลูกศิษย์ด้วยความเมตตาจนวาระสุดท้าย หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ครอบครัวและคณะศิษย์ได้จัดสร้าง รูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ไว้เป็นที่สักการบูชาในวัดศาลเจ้า วัตถุมงคลของเซียนแปะที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก เหรียญรูปเหมือนทรงหยดน้ำ ล็อกเกตรูปเหมือน และผ้ายันต์หลายรุ่นด้วยกัน มีทั้งแบบพกติดตัว ติดหน้าบ้าน ร้านค้า อาคาร สำนักงาน เชื่อว่าสามารถเสริมพลัง อำนาจ ความบริบูรณ์มั่งคั่งให้กับผู้บูชา

พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขสำเร็จทุกเรื่อง

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยไปไม่ขาดสาย พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา แค่ได้เห็นท่านก็มีความสุขแล้ว องค์พระพิฆเนศมีสีชมพูสดใส ความยาวกว่า 24 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอนประทับเอกเขนกกลางลานอันกว้างใหญ่ดูเปี่ยมพลังแห่งความสุขและบารมี เหล่าผู้ศรัทธาต่างมากราบไหว้ขอพร เพราะเชื่อกันว่าใครที่ได้มาขอพรเทพเจ้าแห่งความสำเร็จนี้ จะทรงประทานพรให้พบกับสุขความสำเร็จ มีความสมบูรณ์พูนสุข มั่งคั่ง อิ่มหนำสำราญ มีเงินทองใช้อย่างไม่ขาดมือ ปราศจากทุกข์ภัย ไร้ความเศร้าหมองใด ๆ ราวกับการได้เสวยแต่ความสุขอยู่ในวิมาน บริเวณด้านหน้าพระพิฆเนศ จะมีปูนปั้นรูปหนูอยู่สองตัว ชื่อว่าหนูมุสิกะ ต้นห้องของพระพิฆเนศ ที่นักท่องเที่ยวต่อแถวยาวยืนกระซิบที่หูหนู เพื่อขอพรสิ่งซึ่งจะสมหวังเพราะหนูจะนำสิ่งที่ขอนั้นไปบอก ท่านพระพิฆเนศ และที่สำคัญอย่าลืม ติดสินบนหนูด้วย

ถ้ำนาคานาคียังฮิตไม่เลิก

มหัศจรรย์ธรรมชาติของหินก้อนใหญ่และผนังถ้ำ ที่มีลักษณะคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว สวยงามและน่ามหัศจรรย์ กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก ด้วยฐานจากความเชื่อและศรัทธาเรื่องพญานาคที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะคนอีสานมาเป็นเวลาช้านาน ถ้ำนาคานี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ จะเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น แม้ว่าระยะทางการเดินอาจจะถือว่าไกลสำหรับบางคน แต่ทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางจนถึงหินพญานาคที่สวยงามแปลกตารออยู่ปลายทาง ทำให้ผู้ไปเยือนประทับใจได้ไม่น้อย

และด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น และเส้นทางในการเดินขึ้นลงนั้นแคบและชันในบางช่วง นักท่องเที่ยวต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไป เพราะถ้ำนาคาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้แค่วันละเพียง 500 คนเท่านั้น เส้นทางการเดินขึ้นข้างบนอาจจะใช้เวลานานชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และใช้เวลาสามหรือสี่ชั่วโมงตลอดทั้งทริป ดังนั้นจึงต้องเตรียมน้ำดื่มและอาหารขึ้นไปเองทั้งหมดให้เพียงพอ

ไอ้ไข่วัดเจดีย์ ค้าขายโชคลาภ

ถ้าเอ่ยเรื่องความเชื่อการขอพรด้านโชคลาภและการค้าขาย ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ แห่งเมืองสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องเป็นดาวเด่น ขึ้นหิ้งแน่นอน แม้เรื่องราวเล่าขานยังไม่แน่ชัด บ้างว่ากันว่าเป็นดวงวิญญาณของเด็กวัดลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ทวดครั้งธุดงค์มาที่วัดร้าง ซึ่งปัจจุบันคือวัดเจดีย์ แล้วทำหน้าที่เฝ้าสมบัติ บ้างก็ว่าเป็นวิญญาณเด็กแถวนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าแบบไหน ก็ตรงกันว่า ไอ้ไข่ น่าจะเป็นเด็กราว 9-10 ขวบ หรือหากย้อนกลับไปนับตามอายุจริง วันนี้ก็ต้องเป็นตาไข่ไปแล้ว

จุดเริ่มต้นความเชื่อความศรัทธาก่อร่างชัดเจนมากขึ้นราวปี พ.ศ. 2525 เมื่อคนท้องถิ่นชื่อผู้ใหญ่เที่ยง นิมิตถึงเด็กชายมาขอให้แกะรูปของตน จึงเป็นที่มาของการแกะสลักไม้ตะเคียน สลักกลายเป็นรูปเคารพไอ้ไข่ที่โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วประเทศจวบจนทุกวันนี้ สำหรับใครที่ไปขอพรแล้วสมใจ มักแก้บนด้วยของเล่นเด็กต่าง ๆ เช่น ชุดลายพรางทหาร น้ำอัดลม น้ำหวาน รูปปั้นไก่ ฯลฯ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของไอ้ไข่ทำให้ใครต่อใครรับทรัพย์รับโชคลาภกันมากมาย

“ท้าวเวสสุวรรณ”มาแรงโชคลาภ-ขจัดสิ่งชั่วร้าย

อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแรงปีนี้ “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่ผู้คนต่างหลั่งไหลขอพรในด้านความสำเร็จ กิจการงาน ความร่ำรวย ลาภยศ และขจัดสิ่งอัปมงคลสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ณ เวลานี้มีหลายวัด หลายสถานที่ที่ผู้คนต่างไปกราบไหว้  เช่น วัดสุทธาราม เขตคลองสาน กทม. มีท้าวเวสสุวรรณเนื้อโลหะใหญ่ที่สุดในไทย ขนาดความสูงกว่า 8 เมตร, วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (บางชัน) กทม. วิธีบูชา จุดสักการะธูป 9 ดอก ถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก เทียนแดง 2 เล่ม น้ำแดง 1 ขวด วิธีเรียกทรัพย์เข้ากระเป๋า ให้นำกระเป๋าสตางค์ วนทางขวารอบกระบองขององค์ท้าวเวสสุวรรณ 9 รอบ แล้วอธิษฐาน ขณะที่วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม ต้องรอวัดเปิดเป็นทางการอีกครั้ง.

เปิด 5 เคล็ดลับ “มู” ที่ไหนก็ปัง!!!

ดร.คฑา ชินบัญชร พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดเคล็ดลับมูอย่างไรให้ชีวิตปัง เพิ่มพลังชีวิต ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า วิธีการเดินทางไปแต่ละที่ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราต้องรู้ก่อนว่า การมูในหลักของพุทธศาสนา ไม่ได้เน้นเรื่องพิธีกรรม แต่พิธีกรรมจะเป็นการน้อมนำ หรือเหนี่ยวนำจิตใจของเราให้สงบ เช่น การจุดธูปจุดเทียน กลิ่นธูป แสงเทียน จะช่วยส่งพลังให้กับเรา

รวมถึงการไปนั่งต่อพระพุทธรูป หรือสถานที่อันควร ก็ช่วยน้อมนำจิตใจเราให้สงบมากกว่าอยู่ที่บ้าน เพราะการอยู่ที่บ้านนั้นก็สามารถทำได้ แต่ก็จะมีเสียงโทรศัพท์ โทรทัศน์ ลูกร้อง หมาเห่า ทำให้จิตใจของเรานั้นวอกแวก ไขว้เขว ดังนั้นการที่เราออกไปมู เดินทางออกไปท่องเที่ยว เป็นการออกไปรับพลังของธรรมะและธรรมชาติมาเพิ่มพลังให้กับชีวิตของเรา

ธาตุน้ำ หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ชุ่มชื่น สดชื่น

ธาตุไม้ หมายถึง การเจริญเติบโต ก่อเกิดงอกเงยคือชีวิต

ธาตุไฟ ไปรับพลังจากแสงอาทิตย์ ฆ่าโควิด-19 ได้รับวิตามินดี ได้ความเจริญรุ่งเรือง

ธาตุดิน มีความหนักแน่น มั่นคง เอาเท้าเปล่าได้สัมผัสพื้นดิน พื้นหญ้า ที่มีความหนักแน่นมั่นคงให้กับชีวิต

ธาตุทอง ได้ไปกระจายรายได้ให้กับชุมชนให้กับสินค้าท้องถิ่น ส่งมอบพลังดี ๆ ให้กับชาวบ้าน เราก็จะได้รับพลังที่ดีกลับคืนมาเช่นกัน รอยยิ้ม แววตาที่อบอุ่น เงินที่เราหยิบยื่นในการใช้จ่ายในแต่ละที่ จะส่งกลับมาให้กับตัวเราเช่นกัน แถมยังเป็นการกระจายรายได้และสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วย ถือเป็นส่วนสำคัญ

5 สิ่งสำคัญที่เป็นเคล็ดลับของการไป “มู” ในทุกที่

1.ขอพรอย่าเยอะแยะเลอะเทอะ เพราะจิตของเราฟุ้งซ่าน ไม่สามารถรวบรวมได้ เช่น การขอคู่ ต้องโฟกัสหรือคัดเลือกมาแล้วอย่างเข้มข้น โดยขอพรขอเพียง 1 หรือ 2 อย่าง ที่ต้องเห็นภาพให้ชัดเจน

2. เวลาขอพระ หรือเทวรูปอย่าหลับตา เพราะการหลับตาที่เหมือนกับเป็นการทำสมาธิ แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้ขอกับคนอื่น แต่เป็นการขอพรกับพระพุทธรูป หรือเทวรูปที่อยู่ตรงหน้า ถ้าเราหลับตา จะทำให้เรานึกภาพไม่ออก ดังนั้นต้องลืมตามองไปที่พระพักตร์ จะช่วยให้จิตของเรามีสมาธิ

3.ก่อนที่จะขอพรหรืออธิษฐาน ถ้ามีบทสวดอะไร ควรสวดให้เรียบร้อย เพื่อส่งจิตถึงพระพุทธรูป หรือเทวรูปที่อยู่ตรงหน้า เพราะตามอง ปากอ่าน หูฟัง ทำให้เรามีสมาธิ ในศาสนาพุทธเรียกว่า ขณิกสมาธิ เป็นสมาธิสั้น ๆ ที่ทำให้เรามีจิตใจสงบ และมีพลัง

4.การเอ่ยปากขอพร ต้องเอ่ยชื่อนามสกุลของตัวเองให้ชัดเจน รวมถึง ชื่อพระพุทธรูป หรือเทวรูป และสถานที่ให้ถูกต้อง เพื่อให้ท่านรับรู้และได้ยิน หรือขอพรที่เราต้องการเป็นภาพอธิบายให้ชัดเจน การขอพรเป็นการทำสมาธิ เรียกสติ และได้ปัญญาที่ต้องได้กับชีวิตของตัวเองและคนอื่น

5. กฎของแรงดึงดูด ที่มีพลังของแสงสีทอง ออร่ามองเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า เรียกว่า สเปกตรัม เมื่อคนที่มีความสุขสุด ๆ ด้วยจิตและมีพลัง จะเปล่งแสงออกมา ช่วงเวลาที่เราสวดมนต์ ทำสมาธิ และขอพร ทำให้เรามีจิตพลังสูงสุดในช่วงขณะหนึ่ง และดึงดูดพลังบวกดี ๆ เข้ามาให้กับตัวเรา การตั้งมั่นของใจที่ยิ่งใหญ่ จะช่วยดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามา ทำให้การมูของเราไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป หรือเทวรูป องค์ใดก็จะประสบความสำเร็จ และเมื่อกลับมาแล้ว ถ้าอยากรวยก็ต้องขยัน ถ้าอยากแข็งแรง ก็ต้องออกกำลังกายด้วย.