เมื่อวันที่ 13 เม.ย. เวลา 08.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตสายไหม โดยมี น.ส.ปวีณา หงสกุล อดีต ส.ส.กทม. 6 สมัย ร่วมลงพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ทำบุญเนื่องในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย ที่วัดหนองใหญ่ จากนั้นเดินพบปะพูดคุยกับประชาชนที่มาทำบุญที่วัดหนองใหญ่ และในตลาดวงศกร
นายชัชชาติ กล่าวว่า เขตสายไหม เป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวของหมู่บ้านจัดสรร สาธารณูปโภคตามมาไม่ทัน กทม.ต้องเข้ามาดูแลให้ทั่วถึง จากการลงพื้นที่ปัญหาที่พบคือการเชื่อมต่อการเดินทางสู่ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัญหาทางเดินเท้าที่ไม่เหมาะสมในบางจุด เช่น บริเวณสะพานลอยคนข้ามถนนหน้าทางเข้าวัดหนองใหญ่ ทางเท้าแคบมาก ไม่มีพื้นที่สำหรับวีลแชร์หรือรถเข็นเลย ปัญหาพื้นที่ค้าขายริมทาง ปัญหาขยะตกค้าง ซึ่งกทม.ต้องเพิ่มความถี่ของรอบรถจัดเก็บขยะมากขึ้น หรือเพิ่มจำนวนรถ เพิ่มจำนวนบุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บขยะ ไม่ให้มีขยะตกค้าง ในส่วนนี้อาจให้เอกชนทำบางส่วน ระหว่างลงพื้นที่ก็ได้ฟังปัญหาจากประชาชนว่าบริเวณนี้มีการจัดเก็บขยะเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เท่านั้น
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยอมรับว่า เขตสายไหม ดอนเมือง บางเขน มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ทุกคนมีสิทธิแพ้ชนะเท่ากัน
เมื่อถามว่า เขตสายไหม เป็นเขตที่มีประชากร และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด มีความมั่นใจที่จะได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนในพื้นที่นี้หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าว คาดการณ์อะไรไม่ได้เลยว่าจะได้คะแนนเสียงจากพื้นที่มากน้อยเพียงใด แต่ก่อนหน้านี้ตนลงพื้นที่พบปะประชาชนมาแล้วหลายครั้ง มั่นใจในนโยบายและความตั้งใจที่จะให้ประชาชน
พร้อมยืนยันว่าการลงพื้นที่ร่วมกับ น.ส.ปวีณา เพราะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ทำงานร่วมกันสมัยเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีนัยแอบแฝงว่าพรรคเพื่อไทยหนุนหลังแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ยังมีเพื่อนนักการเมืองในพื้นที่หลายคนที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนแนะนำให้รู้จักชาวบ้านในชุมชน เพราะจุดอ่อนของตนคือการไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองช่วยทำพื้นที่ โดยหลังสงกรานต์จะมีการปรับกลยุทธ์การหาเสียงในชุมชน เน้นการลงพื้นที่ชุมชนพบปะกับประชาชนให้มากขึ้น เพราะว่าคนส่วนใหญ่ในชุมชนไม่ได้เล่นโซเชียล แต่ติดตามสื่อกระแสหลัก คือ ทีวี หนังสือพิมพ์
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ได้กล่าวถึงผลโพลที่มีคะแนนความนิยมนำผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่าถือเป็นกำลังใจแต่ประมาทไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมามักไม่เป็นไปตามผลโพล และจะหักปากกาเซียนตลอด
‘