ศึกบอลอาชีพไทยฤดูกาลหน้า (2022-23) อาจไม่มีโควตาให้กับการไปแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก (เอซีแอล) เนื่องจากฤดูแข่งขันบอลสโมสรเอเชียที่ขยับออกไป
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ประกาศปฏิทินแข่งขัน ศึกถ้วยใหญ่สโมสรเอเชีย ที่ปรับไปเตะข้ามปี กล่าวคือ ในฤดูกาลนี้ เริ่มตั้งแต่ เม.ย. 2022 ข้ามไปจบ ก.พ. 2023 (บีจี ปทุม แชมป์ไทยลีก 2021 กับ ลีโอ เชียงราย แชมป์เอฟเอ คัพ 2021 เป็นตัวแทนสโมสรไทยเข้าร่วมรอบแบ่งกลุ่ม) จากนั้นฤดูกาลใหม่บอลเอซีแอล เริ่มเดือน ส.ค. 2023 คือในส่วนของฤดูกาล 2023-24
ปัญหาจะเกิดขึ้นกับไทยลีกทันที เพราะฤดูกาลปัจจุบันบอลไทยจะจบเดือน พ.ค. 2022 ส่วนฤดูกาลใหม่ 2022-23 จะเริ่ม ส.ค. 2022 ไปจบ ราวๆ พ.ค. 2023 ดังนั้น เมื่อถึงเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023-24 ที่เริ่มเดือน ส.ค.ปีหน้า เท่ากับว่าไทยลีก แข่งเสร็จไปแล้ว 2 ฤดูกาล โจทย์ใหญ่คือของไทยจะหาตัวแทนส่งแข่งขันอย่างไร ในเมื่อบอลอาชีพไทยแข่งจบแล้ว 2 ครั้ง (2021-22, 2022-23) แต่ระยะเวลาคร่อมไปทำให้โควตาบอลสโมสรเอเชียมีให้สำหรับครั้งเดียว
เรื่องนี้ “กีฬาเดลินิวส์” สอบถาม “แชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ข้อมูลว่า สำหรับโควตาที่ประกาศไปแล้ว ก็จะยึดตามเดิม คือสำหรับฤดูกาลบอลไทย 2021-22 จะยังให้สิทธิแข่งขันบอลเอเชียตามเดิม แชมป์ไทยลีก กับ เอฟเอ คัพ ไปรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนที่ 2-3 ไทยลีกไปเพลย์ออฟ เพื่อไปแข่งขันบอลเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งต่อไป ที่จะเริ่มเดือน ส.ค. 2023 หรือราว 15 เดือน หลังบอลไทยจบฤดูกาล เรื่องนี้ก็คงไปเปลี่ยนไม่ได้ เพราะประกาศไปแล้ว
ส่วนฤดูกาลบอลไทย 2022-23 คงต้องมาคุยกันว่าจะเอาอย่างไร เบื้องต้นจากการคุยกันภายในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็มีแนวทางเรื่องที่ บอลอาชีพไทยฤดูกาลหน้า จะตัดโควตาบอลเอเชีย เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาไปเรื่อยๆ ทุกปี ที่ตัวแทนจากไทยกว่าจะได้แข่งบอลเอเชียก็ต้องรอไปปีกว่าๆ ถึงตอนนั้นก็อาจจะไม่ใช่ทีมที่พร้อมที่สุด เมื่อถึงเวลาแข่งขันบอลเอซีแอล เพราะก็จะมีแชมป์ฤดูกาลใหม่เกิดขึ้นแล้ว นอกจากนี้ เอเอฟซี ก็ระบุว่า ทีมที่จะมาแข่งเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ต้องเป็นแชมป์ล่าสุด หรือยึดผลงานปีล่าสุดของแต่ละประเทศด้วย
“ถ้าจะปล่อยไปแบบนี้ ที่จบฤดูกาลไทยแล้วรออีกปีกว่า ก็จะมีปัญหาตามมาในเรื่องระยะเวลา นอกจากนี้ เราก็ต้องการให้ทีมที่พร้อมที่สุดไปแข่งขัน เพราะมีผลต่อค่าสัมประสิทธิ์ หากรอไปข้ามปี ก็ไม่รู้ว่าสโมสรที่เป็นตัวแทนจะยังพร้อมหรือไม่ ดังนั้นก็คิดว่า ยอมเจ็บซะทีเดียว ปีเดียวเลยดีกว่าไหม เพื่อที่ครั้งต่อไปก็เข้าวงรอบปกติ เรื่องนี้จะเชิญสโมสรในไทยลีก 1 มาพูดคุยหลังเทศกาลสงกรานต์ ในการประชุมเรื่องคลับไลเซนซิ่ง เพื่อหาข้อสรุป” นายกรวีร์ กล่าว.
