อื้ออึง!!” เป็นระยะ ๆ กับ “ความเชื่อ” เรื่อง “ไสยศาสตร์-เครื่องรางของขลัง” โดยในไทยมีกระแสเรื่องนี้ต่อเนื่อง… อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีกระแสกรณีจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานมีคนแอบขุด “ฟอสซิล-กระดูกไดโนเสาร์” อายุหลายล้านปี เพื่อนำไปทำเป็น “ของขลัง” หรืออีกกรณีเกิดในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ที่มีคนแอบเข้าไปตัด “หินงอก-หินย้อย” ในถ้ำ เพื่อนำไปทำ “เครื่องราง” ซึ่งทั้ง 2 กรณีนั้นถึงแม้จะเกิดขึ้นต่างพื้นที่และต่างเวลากัน แต่ก็ยึดโยงเกี่ยวพัน “มุมความเชื่อ” เหมือนกัน…

นี่ก็สะท้อนชัดว่า…สังคมไทยนั้นยังคงแนบแน่น…

กับ “ความเชื่อสิ่งลี้ลับ” โดยเฉพาะ “มุมไสยศาสตร์”

“เชื่อ” โดยโยงถึงการ “หวังโชคลาภ” ก็เชื่อกันเกร่อ!!

ถึงแม้สังคมไทยยุคนี้จะเป็น “ยุคเมตาเวิร์ส-ยุคโลกเสมือนจริง” แล้ว…ทว่า “ความเชื่อ” เรื่องนี้ ความเชื่อเรื่องทาง “ไสยศาสตร์” ที่ไม่ใช่เรื่องทางศาสนา ก็ยังมีคนไทยจำนวนไม่ใช่น้อย ๆ ที่ “เชื่อ”  โดยที่ “เปิดรับ-ยอมรับ” เกี่ยวกับเรื่องนี้กันแบบไม่ตะขิดตะขวงใจอะไร แม้แต่กับคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เชื่อเรื่องนี้ก็เยอะ!! ซึ่ง “ปรากฏการณ์” นี้ก็นับเป็นเรื่องที่น่าค้นหาว่า… “อะไรคือปัจจัย???” ที่ทำให้ถึงแม้จะเป็น “ไทยยุค 2022” แล้ว…แต่ก็ยากที่สังคมไทยจะเลิกแนบแน่นกับเรื่องนี้???… 

ทั้งนี้ กับคำอธิบายทาง “มุมจิต” ถึง “ปรากฏการณ์ความเชื่อ” ของคนไทยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ ทาง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้สะท้อนกับทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาว่า… ความเชื่อมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่จะยิ่งมีผลกับมนุษย์เพิ่มขึ้นในเวลาที่รู้สึกกลัว รู้สึกอ่อนแอ รู้สึกหมดหวัง รู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต อย่างเช่นตอนนี้ที่เกิดปัญหาโควิด-19 ระบาด หรือแม้แต่สภาพเศรษฐกิจไม่ดี ที่ทำให้หลายคนรู้สึกหมดหวัง ก็จึงต้อง “สร้างความเชื่อ” ขึ้นมาใหม่ “เพื่อให้เกิดความหวัง” ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง…

ดร.วัลลภ ยังได้ชี้ให้เห็นถึง “ปรากฏการณ์” ที่เกิดขึ้นตอนนี้ โดยระบุผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” เอาไว้อีกว่า… เมื่อผู้คนรู้สึกหมดหวัง หรือสิ้นหวังกับสภาพสังคมปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ก็จึงต้อง “หาวิธีที่จะสร้างความหวังขึ้นมาใหม่” โดยหลาย ๆ คนก็ไป “ยึดเหนี่ยวสิ่งที่มองไม่เห็น-ยึดเหนี่ยวสิ่งที่เป็นนามธรรม” อย่างการ “เชื่อเครื่องรางของขลัง-ไสยศาสตร์”

ด้วยมุมมองว่านี่เป็นวิธีที่ง่ายที่จะเพิ่มความหวัง

ที่ก็ “ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลก” ใน “มุมของจิตวิทยา”

อย่างไรก็ตาม แม้ “ความเชื่อในสิ่งลี้ลับ-สิ่งที่มองไม่เห็น” นั้นจะ “ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ” แต่ถ้าหากเป็นการ “เชื่อแบบผิด ๆ…ก็น่าเป็นห่วง!!” โดยทาง ดร.วัลลภ ระบุว่า… ชีวิตของมนุษย์อยู่ได้ด้วยความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธา ความรัก ความฝัน ซึ่ง
มนุษย์ทุกคนล้วนมีความเชื่ออยู่ในตัว  ขึ้นกับว่าจะ “เชื่อมาก-เชื่อน้อย” แค่ไหน?-อย่างไร? ซึ่งใน “มุมของไสยศาสตร์” จะมีหลักการที่สำคัญที่นำมาใช้คือ…การทำให้มนุษย์มีความเชื่อที่ฝังลึก ซึ่งพอคนเรามีความเชื่อ ก็จะทำให้เกิดความหวัง และมีความฝันด้วย เช่น ทำให้เชื่อว่า…ถ้ามีวัตถุมงคลนี้ หรือถ้าทำพิธีนี้แล้ว จะช่วยทำให้รวยขึ้นมาได้?? เป็นต้น

“ต่อให้โลกจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ก็ยากที่ความเชื่อนี้จะหายไป หนำซ้ำไม่เพียงจะยังคงอยู่คู่กับมนุษย์ต่อไป แต่จะยิ่งมีวิธีการ มีเทคนิคมากมาย ที่ยิ่งซับซ้อนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ยึดโยงอยู่กับความเชื่ออย่างเดียว แต่ปัจจุบันยิ่งโยงไปอยู่กับเรื่องธุรกิจเชิงพาณิชย์ด้วย” …ทาง ดร.วัลลภ ฉายภาพไว้…

“ความเชื่อไสยศาสตร์ยุคใหม่” นี่ “ยิ่งโยงเชิงการค้า”

ยิ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเพราะ “มีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย!!”

และด้วยความที่ “ความเชื่อไสยศาสตร์-เครื่องรางของขลัง” ไม่ได้เป็นแค่เรื่อง “ที่พึ่งทางจิตใจ” แต่มีเรื่อง “มูลค่า-เม็ดเงิน” เข้ามาเกี่ยวด้วย จึงยิ่งจำเป็นที่คนไทย“ต้องระวังให้มาก” เพราะถ้าถลำลึกไปในความเชื่อแบบผิด ๆ ไม่เพียงจะไม่ทำให้รู้สึกมีความหวัง แต่ยังจะยิ่งทำให้รู้สึกหมดหวังยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากพลาดพลั้งถูกหลอกลวง ดังนั้น ถึงแม้ความเชื่อความศรัทธาจะไม่สามารถแยกจากมนุษย์ได้ แต่ก็ควรที่จะ “ต้องเชื่อแบบสมเหตุสมผล” …เป็น “คำแนะนำ” จากนักจิตวิทยา

ดร.วัลลภ ยังได้แนะนำเพิ่มเติมเรื่อง “หลักในการเชื่อ” ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาด้วยว่า… ความเชื่อต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีสติ โดยจะ “ต้องไม่เชื่อแบบงมงายหรือยึดติด” เพราะการที่มีแต่ความเชื่อ แต่ไม่มีความคิด ก็อาจจะนำพาไปในทางที่ผิดจนเป็นอันตรายได้!! อย่างเช่นการไปขโมยซากฟอสซิลหรือกระดูกไดโนเสาร์เอาไปทำของขลัง เอาไปทำวัตถุมงคล แบบนี้นี่ถือเป็นความเชื่อแบบผิด ๆ ที่ไม่สมเหตุสมผลเลย ซึ่งส่วนตัวก็อยากเสนอแนะว่า… สังคมไทยควรต้องมีการส่งเสริมในเรื่องของการคิดวิเคราะห์แยกแยะให้มากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ความเชื่อนั้นไม่เกิดอันตราย…

“ความเชื่อแม้เป็นเรื่องตัวบุคคล แต่ไม่คิดวิเคราะห์ให้มากพอก็จะอันตรายมาก โดยเฉพาะถ้านำความเชื่อมาใช้ในทางไม่ดี สังคมปัจจุบันยิ่งต้องมีความคิดไตร่ตรองให้มาก เพราะไม่อย่างนั้นก็จะยิ่งทำให้ชีวิตดำดิ่งลงไป แทนที่จะมีความหวังก็จะยิ่งทำให้ชีวิตสิ้นหวังหนักขึ้น” …ทาง ดร.วัลลภ เตือนเน้นไว้ถึงกรณี “เชื่อไสยศาสตร์”

“เชื่อโดยหวังจะให้มีหวัง” นั้น “ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก”

เพียงแต่ต้องไม่ “ไหลไปกับความเชื่อจนเกินไป” …

ไม่เช่นนั้นล่ะก็…“อันตรายเพราะเชื่อ…รออยู่!!!”.