เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่โรงแรมต้นอ้อยแกรนด์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภาคใต้ แถลงกรณีการบุกรุกโบราณสถานพื้นที่เขาแดงและเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา ที่มีคนบางกลุ่มพยายามโยงให้เป็นประเด็นการเมือง จึงมีการเสนอข่าวไม่ตรงข้อเท็จจริง โดยเปิดให้สื่อมวลชนถามทุกประเด็นข้อสงสัย เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสนและมีประชาชนและนักการเมืองท้องถิ่นมอบดอกไม้ให้กำลังใจ

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ยืนยันคำพูดคำเดิมว่าหากมีการสอบสวน แล้วพบว่าตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกโบราณสถานเขาแดงและเขาน้อยเพียง 0.01% จะลาออกจาก ส.ส.ทันทีและจะเลิกเล่นการเมืองทุกระดับตลอดชีวิต และขอให้ดำเนินคดีกับคนที่กระทำผิดไม่ว่าจะเป็นใครให้ถึงที่สุดโดยไม่มีการละเว้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากศาลตัดสินแล้วผิด ให้ชดใช้ทางแพ่งและทางอาญา

นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า แต่มีขบวนการที่พยายามโยงให้ตนเข้าเกี่ยวข้องให้ได้ โดยมีกลุ่มคนบางกลุ่ม และนักการเมืองบางคนที่ลงสมัครแข่งขันกับตน มีการตั้งโต๊ะแถลงผ่านเฟซบุ๊กถล่มตนเกือบทุกวัน จนประชาชนบางคนเกิดความเข้าใจว่าตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเหตุการณ์ให้ได้

นายเดชอิศม์ กล่าวด้วยว่า ข่าวบางข่าวบางสำนักที่เลือกข้าง เสนอข่าวมั่วจับแพะชนแกะที่พยามโยงให้ถึงนักการเมืองระดับชาติ บางคนที่ยืนตรงข้ามตนเชื่อในข่าวที่ออกมา ไม่วิเคราะห์ จนมีบางคนประณามตนแล้วยังใส่ร้ายพรรคที่สังกัด จนเกิดความเสียหาย 3 ส่วน คือตนในฐานะ ส.ส.เขต 5 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และครอบครัว จึงต้องฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่พาดพิงถึงที่สุด เพราะมีขบวนการการเมืองผสมด้วย เพื่อให้ศาลสถิตยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินว่า ตนผิดตามที่ถูกกล่าวหาพาดพิงหรือไม่ เรื่องจะได้จบกัน

นายเดชอิศม์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน 12 คน อยู่ต่างจังหวัดและต่างอำเภอ เมื่อพี่น้องคนหนึ่งคนใดกระทำผิดแล้ว ให้ตนเข้าไปร่วมรับผิดชอบด้วยหรือ ให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย พี่น้องลูกหลานญาติตนทำผิดให้ดำเนินคดีให้เด็ดขาด ตนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นอันขาด และตนเชื่อว่าคดีบุกรุกโบราณสถานเขาแดง เขาน้อย อ.สิงหนคร ไม่เป็นมวยล้มแน่นอน ขึ้นอยู่ที่หลักฐาน

“ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่เคารพความยุติธรรม จึงยุติเรื่องการบุกรุกโบราณสถานเขาแดงและเขาน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการ เพราะยังมีอีก 12 เรื่องที่จะดำเนินการ แล้วมาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน คนที่เห็นต่างต้องมีเปิดใจให้กว้างและพัฒนาจิตใจ อย่าก้าวร้าวและตั้งธงความอคติ ที่สำคัญตัวเองและพวกถูกเสมอและไม่เห็นด้วยกับการค้าความแตกแยกในสังคม” นายเดชอิศม์ กล่าวทิ้งท้าย