จากกรณี ในโลกออนไลน์แชร์ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก “สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์” เป็นภาพตำรวจในโรงพักกำลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนกาเข็มที่ 3 พร้อมระบุข้อความไว้ว่า “….#เข็ม3 สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ประสานการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3 ยี่ห้อง Astra Zeneca กับทางสาธารณสุข อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับ ข้าราชการตำรวจแล้ว จำนวน 11 นาย อาการผลข้างเคียงไม่มี สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์….” ภายหลังมีชาวเน็ตเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่จะเกิดความสงสัยว่า บางจังหวัดยังไม่ทันฉีดเข็มแรก แต่สภ.นี้กลับได้ฉีดเข็มที่ 3 แล้วรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ซึ่งต่อมาได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีอำนาจในการประสานขอรับการจัดสรรวัคซีน แต่เป็นอำนาจของ สสจ.หรือสำนักงานสาธารณสุขประจำจังหวัด ในคณะกรรมการโรคติดต่อของแต่ละจังหวัดนั้น ๆ ที่เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใด ปฏิบัติงานเป็นหน้าด่าน เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เช่น บุคคลากรทางการแพทย์ หรือตำรวจก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นการโพสต์ในเฟซบุ๊กของ โรงพักบ้านใหม่ใชยพจน์แล้ว ก็ได้ตำหนิทางผู้กำกับไปว่า ควรจะโพสต์ชี้แจงเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจตามที่กล่าวมาข้างต้นก่อน โดยเฉพาะตามโครงสร้างการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของแต่ละจังหวัด จะขึ้นตรงกับคณะกรรมการติดต่อโรคประจำจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สสจ.เป็นเลขาฯ ซึ่งมีอำนาจจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข รับมาฉีดให้กับหน่วงานในพื้นที่ ทำให้ตำรวจอยู่ในความบังคับบัญชาของผู้ว่าฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ทางเฟซบุ๊ก “สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “…เรียน ทุกท่านทราบ เนื่องจากเจ้าหน้าตำรวจทั้ง 11 นาย ได้รับคำสั่งให้มีหน้าที่รับส่งผู้ป่วยโควิค กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด ชึ่งอาจจะต้องเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยโควิคในการรับส่ง ชึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จึงได้รับวัคชีนอีกเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ…” ทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างเข้าไปชื่นชมการทำงานของตำรวจโรงพักนี้เป็นจำนวนมาก.