ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) เมื่อวันที่ 29 มี.ค.​ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมซักซ้อมการรับสมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ​ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร​(ส.ก.) ว่า  ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมด้านสถานที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้า ซึ่งวันนี้เป็นการซักซ้อมขั้นตอนต่างๆ​ ที่เกี่ยวกับการรับสมัคร เช่น การตรวจสอบเอกสารที่ผู้สมัครต้องเตรียมมาครบถ้วนหรือไม่ การจับเบอร์ผู้สมัคร โดยมี​ ผอ.เขต 50 เขต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม กว่า 400​ คน 

นายขจิต กล่าวว่า กรณีผู้สมัครเดินทางมาก่อน เวลา 08.30 น. ให้ถือว่ามาพร้อมกัน ตามขั้นตอนคือหากผู้สมัครตกลงกันเองได้ว่า ใครจะใช้เบอร์อะไรก็ไม่ต้องจับสลาก แต่หากตกลงกันไม่ได้ จะใช้วิธีการจับสลากหมายเลขเรียงคิวการจับเบอร์ผู้สมัคร ซึ่งหลังจากจับเบอร์ผู้สมัครผู้ว่าฯ​ กทม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะจับเบอร์ ผู้สมัคร ส.ก.รายเขต เริ่มจากเขตพระนครเป็นเขตแรก และเขตหลักสี่ เป็นเขตสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ย้ำผู้สมัครเรื่องการเตรียมเอกสาร ต้องเตรียมมาให้ครบถ้วนพร้อมรูปถ่าย 10 ใบ โดยให้มีผู้ติดตามได้เพียง 1 คน และการกรอกข้อมูลต้องแจ้งกรอกข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งหมด ส่วนกองเชียร์ผู้สมัครจะจัดพื้นให้รออยู่ด้านนอก เว้นระยะห่างตามมาตรการ ศบค.กำหนด เชื่อว่าผู้สมัครแต่ละคนจะปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด​ ไม่มีใครอยากทำผิดกฎอย่างแน่นอน 

ด้านนายสำราญ ตันพานิช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวว่า นอกจากกฎหมายการเลือกตั้งที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด เช่น กองเชียร์ และขั้นตอนการลงคะแนน 

ทั้งนี้ เอกสารที่ผู้สมัครต้องเตรียมมา นอกจากเอกสารหลักฐานทั่วไปแล้ว หลักฐานที่ต้องนำมายื่นเพิ่มคือเอกสารการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 3 ปี อย่างไรก็ตาม มีข้อห่วงใย ผู้สมัครบางคน ที่มีผู้สนับสนุนกองเชียร์จำนวนมาก แล้วผู้สมัครอาจเผลอไปซื้อข้าวซื้อน้ำเลี้ยง ในส่วนนี้อาจเข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิขายเสียง หรือจูงใจให้ผู้สนับสนุนดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง 

สำหรับการจัดให้รถแห่มีดนตรี พร้อมกองเชียร์ ในวันที่มาสมัครสามารถได้หรือไม่​ นายสำราญ กล่าวว่า ประเด็นการจัดให้มีมหรสพรื่นเริง ที่ผ่านมาผู้สมัครหลายคนมักจะนำแตรวง กลองยาวมาด้วย ซึ่งเข้าข่ายความผิดหาเสียงโดยจัดให้มีมหรสพรื่นเริง จึงต้องงดเว้นการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้หมายเลขผู้สมัครแล้ว เพราะถือเป็นผู้สมัครเต็มตัว ในอดีตเคยมีความผิดลักษณะเช่นนี้ ซึ่ง​ กกต.ได้ให้ใบแดง.