กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พงศ์ภัค (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ครูสอนพิเศษ เจ้าของโรงเรียนสอนพิเศษแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังฉีดวัคซีนสูตรผสม ซิโนแวค เข็มแรก ต่อด้วย แอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 จาก รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ผ่านไปเพียง 1 วัน ขณะสามี อายุ 44 ปี ผู้ตายจี้ให้ชันสูตรศพ ก่อนมีการตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งศพให้แพทย์ผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่รพ.ศิริราช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค. สามีผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า เพิ่งรับศพภรรยากลับมาประกอบพิธีกรรมศาสนากำหนดสวดพระอภิธรรม 3 คืนที่วัดเกาะหลัก เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดฌาปนกิจวันที่ 26 ก.ค.นี้ สำหรับการเสียชีวิตของภรรยาเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ตนยอมรับได้ทั้งหมด แต่ขอให้แพทย์และหน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาแถลงชี้แจงผลการผ่าพิสูจน์ให้ชัดเจนเพื่อให้ครอบครัวรับรู้ และไม่ให้ประชาชนสับสนจนกลัวการฉีดวัคซีนผสม
ผวา!วัคซีนผสมแห่ชะลอฉีด รอผลศิริราชชันสูตรครูสาวสังเวยรายแรก
สามีผู้เสียชีวิตกล่าวอีกว่า ส่วนผลผ่าพิสูจน์ที่เบื้องต้นระบุว่าเกิดจากปัญหาสมองบวมจากภายในนั้นจะเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น ขอให้แพทย์รีบออกมาแถลงให้ชัดเจน หรือเกิดจากสาเหตุอื่นตามหลักวิชาการ และหลังจากภรรยาเสียชีวิตยอมรับว่ามีผลกระทบทางจิตใจกับลูกสาววัย 11 ขวบและ 9 ขวบ ทั้ง 2 คนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นและทราบเรื่องจากสื่อ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวัคซีน เป็นที่สนใจของประชาชนส่วนใหญ่มีการนำเสนอข้อมูลต่างๆนานาในสังคมโซเชียลกันจำนวนมาก จึงอยากขอให้สื่อมวลชนงดการเสนอภาพภรรยาตนหลังจากเสียชีวิตด้วย