มาโน โพลกิง ยังไม่เปลี่ยนแผนจากซูซูกิคัพ โครงหลักเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่นักเตะ

11 คนแรก มี 5 คน ที่อยู่ในชุดแชมป์อาเซียน คือ ทริสตอง โด, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, พิชา อุทรา และ อดิศักดิ์ ไกรษร

เฉลิมศักดิ์ อักขี ได้ลงทีมชาติครั้งแรก คู่กับ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่หากฟิตสมบูรณ์ น่าจะเป็นเบอร์ 1 ในเซ็นเตอร์แบ๊ก

กลางรับใช้แนวเชิงสูง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ที่ มาโน อยากดู ขณะที่ อดีตเจ้าชายฉลาม วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เป็นตัวรุก มาเล่นในถิ่นเดิม ชลบุรี สเตเดี้ยม

บอลของ ช้างศึก ขึ้นฝั่งซ้ายที่ เควิน ค่อนข้างเยอะ แต่การตั้งรับของ เนปาล จัดว่าเหนียวแน่น แถมมีสวน โดยเจาะทาง เควิน นั่นแหละ

ต้องชม เนปาล ของกุนซือ อับดุลลาห์ อัล มูไตรี ที่วางเกมเหนียวแน่น บล็อกเกมรุกไทยได้หมด ช้างศึก แทบไม่มีโอกาสยิงเหน่งๆ เลย

ครึ่งหลัง มาโน พยายามยืดหยุ่น ให้หลากหลาย ขยับ ปฐมพล จากริมเส้นซ้าย เข้าไปเป็นกองหน้า แล้วส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน พร้อมส่ง ฟิลิป โรลเลอร์ เล่นตัวรุกฝั่งขวาแทน พิชา

เท่ากับว่า มีแบ๊กธรรมชาติ 4 คน ในคราวเดียว เควิน, ศศลักษณ์, ฟิลิป, โด เพื่อถ่างเกมรับ

ก็สร้างความงงให้ เนปาล พอควร เควิน ได้แหวกไปส่อง แต่พลาด ต่อด้วยการโขกชนคานของ พรรษา

สุดท้ายแล้วความหลากหลายของแผนมาโน ก็ง้างรถบัสเนปาลแตก จาก ฟิลิป โรลเลอร์ กับ เชาว์วัตน์ วีระชาติ นาทีที่ 78 กับ 89

แม้จะเหนื่อยสักหน่อย แต่นอกจาก เนปาล โดนบดจนกรอบแล้ว ด้วยความเก๋า ความแกร่ง และความหลากหลาย พยายามปรับเกมหมุนไปเรื่อยๆ ของ มาโน ก็ประสบความสำเร็จ

เป็นบททดสอบชั้นดี กับการตีรถบัสให้แตก เพราะในเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือก มี 2 ทีม มัลดีฟส์ และ ศรีลังกา ในกลุ่ม ซึ่งถือเป็น 2 นัดสำคัญ

ชนะไม่พอ ยังต้องยิงให้เยอะ เพื่อวัดลูกได้เสีย ไม่ว่าจะไปวัดกับอุซเบกิสถาน หรือวัดที่ 2 กลุ่มอื่น

เกมกับเนปาล แม้จะอึดอัดบ้าง แต่สุดท้ายการที่ มาโน ก็หาทางออก เจาะตาข่ายคู่แข่งได้

ทำให้ใจชื้น ในศักยภาพของทีมชาติไทย กับโจทย์รถบัส ที่เราจะเจออีกในเดือน มิ.ย.นี้

*** วุฒินล ***