นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 24 มี.ค. เวลา 13.30 น. นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการ สศช. และผู้เกี่ยวข้อง จะร่วมแถลงรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย โดยเฉพาะมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนที่พุ่งเป้าไปที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ณ ทำเนียบรัฐบาล

หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ได้เห็นชอบ 10 มาตรการ ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากครัวเรือนได้จริง โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวอย่างน้อยได้ไม่ต่ำกว่า 3%

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน จากความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าและบริการต่าง ๆ ทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น  จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเร่งด่วนบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน เพิ่มเติมจากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่ โดยมีประชาชนที่ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ใช้วงเงินไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำหรับ 10 มาตรการมีดังนี้

1.ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย จำนวน 20 ล้านหลังคาเรือน ได้รับส่วนลดค่าเอฟที เป็นเวลา 4 เดือน

2.นายจ้างและผู้ประกันตนในมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน ได้รับการลดเงินนำส่งจาก 5% เหลือ 1% งวดค่าจ้าง พ.ค.-ก.ค.

3.เกษตรกร 9 ล้านคน จะได้รับประโยขน์จากการแก้ปัญหาปุ๋ยแพงและปุ๋ยขาด และแก้ปัญหาอาหารสัตว์

4.ผู้ใช้ก๊าซหุงต้มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน ได้รับการเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้มเป็น 100 บาท/3 เดือน เป็นเวลา 3 เดือน

5.ผู้ประกันตนในมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน ได้ลดเงินนำส่งจาก 9% เหลือ 1.9% งวดค่าจ้าง พ.ค.-ก.ค.

6.ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง 1.57 แสนคน ได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 5 บาท/ลิตร จำนวน 50 ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน

7.ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1,500 คน ได้รับส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน

8.ผู้ขับรถแท็กซี่ที่อยู่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน ได้ซื้อก๊าซในราคา 13.62 บาท/กก. ในวงเงิน 10,000 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน

9.ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไว้ที่ 30 บาท/ลิตร

10.คงราคาขายปลีก NGV ที่ 15.59 บาท/กก.

“ท่านนายกฯ ย้ำให้ทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานทำงานอย่างหนัก ในการช่วยเหลือแบ่งเบา ภาระค่าครองชีพ แก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชนให้ได้มากที่สุด ด้วยมาตรการและแผนฟื้นฟูประเทศที่ได้วางไว้ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรียืนยันมาตลอดว่า “ไม่มีทึ้งใครไว้ข้างหลัง” และยังจะเร่งเดินหน้า “พลิกโฉมประเทศไทย” สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ใหม่ๆ ให้คนไทยต่อไป”