ที่หอประชุมอาชาสีหมอก ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี, นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล, นายปรีชา ทองคำ, นายชูชีพ พงษ์ไชย รอง ผวจ., นายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี, นายอาคม สุวรรณโน ท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าร่วม โดยมีผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด เข้ารับฟังปัญหาพร้อมกับมอบรางวัล อปท. ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2564 จำนวน 8 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการศึกษา ด้านการสาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการกำหนดให้มีการคัดเลือก โดยให้ทุกจังหวัด อปท. ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อปท. ที่ได้รับรางวัล โดยมีเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ได้รับรางวัลผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านการศึกษา ดร.เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายก ทม.สุพรรณบุรี เป็นผู้รับมอบ เทศบาลตำบลดอนเจดีย์ ได้รับรางวัลผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านสิ่งแวดล้อม และ อบต.พลับพลาไชย ด้านการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น
นายวราวุธ ได้กล่าวในที่ประชุม ให้ผู้นำส่วนท้องถิ่นได้ทราบถึงปัญหาสำคัญของประเทศไทยว่า แน่นอนว่า โควิด-19 เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม การเมือง ที่ยังเป็นปัญหา แต่ปัญหาเหล่านี้ยังเป็นอันดับรองลงไป พวกเราตื่นเช้าขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน เปิดหนังสือพิมพ์ ทีวี แต่ประเด็นที่สำคัญคือ จากนี้ไปอีก 5-10 ปี ข่าวเหล่านี้จะยังอยู่ ในอนาคตจากนี้ พวกเราที่ได้มานั่งฟังตนพูด จะถูกธรรมชาติลงโทษหนักกว่านี้อีกขนาดไหน ที่ผ่านมาธรรมชาติลงโทษมวลมนุษย์ทั้งโลกรุนแรงมาก ตามข่าวสารพวกเราก็ย่อมจะทราบดี
“ผมน่าจะเป็นรัฐมนตรีคนเดียวในคณะรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางเข้าพื้นที่มาแล้วทุกจังหวัดของประเทศ ในฐานะรัฐมนตรีทรัพยากรฯ ผมอยู่สุพรรณบุรี ตั้งแต่เล็กจนโตกับคุณพ่อบรรหาร ทำงานมาจนถึงวันนี้ ผมเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางคนก็บอกว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาล แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว ต้องถามก่อนว่าปัญหาหลัก ๆ ทุกปีในสุพรรณบุรี ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ทุกปีนั้น มีน้ำท่วมหนัก ปี 2549 ผมกับนายกเอกพันธุ์ (เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายก ทม.สุพรรณบุรี) เราไปลุยน้ำท่วมกัน มีคุณพ่อบรรหารไปด้วย ลุยน้ำเกือบมิดหัวในเขตเทศบาล จากนั้นอีก 5 ปีให้หลัง ได้เร่งสร้างผนังกั้นน้ำในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี เสร็จเรียบร้อย ถึงปี 2554 น้ำสูง แต่น้ำไม่ท่วมในเขตเทศบาล ทั้ง ๆ ที่น้ำมากกว่าปี 2549 อีก
แต่ด้วยวิสัยทัศน์ ศักยภาพของผู้บริหาร ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมของสุพรรณบุรีไม่หนักหนาเท่าปี 2549 พอถึงปี 2564 ใครจะคิดว่าระดับของผนังกั้นน้ำที่ได้ทำไว้ในปี 2564 จะเหลือไม่ถึง 10 เซนติเมตร ก็จะล้นผนังกั้นน้ำ ใครจะคิดว่า 10 ปีเท่านั้น ที่คุณพ่อบรรหารคิดไว้จะเอาไม่อยู่ แล้วจากนี้ไปอีก 10-50 ปี สุพรรณบุรีต้องทำผนังกั้นน้ำสูงขึ้นอีกกี่เมตร จะเผชิญกับภัยแล้งอีกกี่รอบ น้ำท่วมบางคนก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องป้องกัน ทำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วม แต่ปัญหาสำคัญ น้ำแล้งกับน้ำท่วมเกิดมาจากอะไร
มันมาจากการที่โลกใบนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เรากำลังพูดถึงจากนี้ไปอีก 50 ปี 100 ปี จากนี้ไปมนุษย์เราจะอยู่บนโลกใบนี้กันอย่างไร ดังนั้น ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำในท้องถิ่น ต้องมาช่วยกันคิด ทุกวันนี้รัฐบาลก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ปัญหา แต่เหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยประเทศเดียว มันเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เราต้องเข้าร่วมประชุมกับนานาชาติ เพื่อแก้ปัญหาเรือนกระจกให้ลดลง เรื่องนี้ก็ขอฝากให้กับพวกท่านจะได้ช่วยกันคิด อย่างท้องถิ่นก็ส่วนหนึ่ง ของกระทรวงมหาดไทย ขอฝาก ท่านณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี ท่านอาคม สุวรรณโน ท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี ช่วยนำนโยบายของมหาดไทย ย้ำเตือนผู้นำท้องถิ่นที่ท่านดูแลด้วย” นายวราวุธ กล่าวทิ้งท้าย.
