เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่หน้าบ้านเลขที่ 26/416 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการสยบไพรี 65/8 “ทลายแก๊ง Gerøge Häper” (จอร์จ ฮาร์เพอร์) โดยร่วมกับหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 6, 8 และ 9 ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 16,800 เม็ด, ยาอี 300 เม็ด, เคตามีน 1.99 กรัม และตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านและที่ดินหลายรายการ, รถยนต์ 7 คัน, รถจักรยานยนต์ 6 คัน, เงินสด 900,000 บาท, บัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 64 ล้านบาท
พล.ต.ท.สรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ประมาณช่วงปี 62-64 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จำนวน 5 คดี จึงขยายผลต่อเนื่องเพื่อกวาดล้างผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ ที่ยังเหลืออยู่ กระทั่งพบมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด 2 เครือข่าย โดยเครือข่ายหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ บริเวณเขตสายไหม รอยต่อติดกับพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงธนบุรี บริเวณเขตบางมด และเขตจอมทอง โดยทั้งสองกลุ่มจะทำการซุกซ่อนยาเสพติดตามบ้านพักที่เปิดขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือซุกซ่อนในรถยนต์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้น จากนั้นก็จะกระจายยาเสพติดไปทั่วประเทศ
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 จึงเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผล จนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ 9 ราย โดยมี นายเจริญชัย หรือบีม กาลพฤกษ์ อายุ 29 ปี ซึ่งใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Gerøge Häper” (จอร์จ ฮาร์เพอร์) เป็นหัวหน้าเครือข่ายและผู้สั่งการ โดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ และ เมสเซนเจอร์ ในการติดต่อซื้อขายกับลูกค้า โดยหากลูกค้าอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็จะให้ลูกน้องไปส่งมอบยาเสพติด แต่หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด ก็จะลักลอบส่งผ่านบริษัทขนส่งหรือ โลจิสติกส์ รวมถึงไรเดอร์แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
พล.ต.ท.สรายุทธ เผยอีกว่า จากปฏิบัติการตรวจค้นดังกล่าว สามารถติดตามจับกุม นายเจริญชัย และผู้ต้องหาตามหมายจับรายอื่น รวม 6 ราย และทำการยึดทรัพย์สินมาตั้งแต่ปี 62 รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า สมุดบัญชีที่สามารถตรวจยึดได้นั้น มีเงินหมุนเวียนจำนวนกว่า 100 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า อยากฝากเตือนถึงบริษัทขนส่งและไรเดอร์แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้ตรวจสอบสินค้าที่นำส่งว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ มิเช่นนั้นจะต้องถูกตรวจสอบด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่.