เมื่อวันที่ 22 ก.ค.  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ตรวจเยี่ยมทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก Bangkok Comprehensive Covid-19 Response Team (Bangkok CCRT)  ที่โรงเรียนวัดดุสิตาราม เขตบางกอกน้อย และวัดสันติธรรมาราม เขตธนบุรี โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะและให้ข้อมูล ซึ่งทีม Bangkok CCRT ได้ดำเนินการพร้อมกัน 6 กลุ่มเขต หมุนเวียนไปในชุมชนต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ

สำหรับบริเวณโรงเรียนวัดดุสิตาราม เขตบางกอกน้อย และวัดสันติธรรมาราม เขตธนบุรี เป็นการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ที่ไม่สามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนที่หน่วยความร่วมมือบริการฉีดโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง

สำหรับผลการดำเนินงาน Bangkok CCRT ระหว่างวันที่ 15-21 ก.ค. 64 ลงพื้นที่ชุมชนแล้ว 827 แห่ง มีประชาชนเข้ารับบริการแล้ว 30,901 คน ให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว 23,411 ราย (ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์) ให้บริการตรวจ Antigen Test Kit แก่ประชาชนแล้ว 2,560 ราย ผลไม่พบเชื้อ 2,293 ราย และผลพบเชื้อ 267 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา 11 ราย นำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ Community Isolation 6 ราย และให้การดูแลแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation 250 ราย พร้อมมอบชุดกักตัว ยาฟ้าทะลายโจร ยาลดไข้ ยาแก้ไอ และยาละลายเสมหะให้แก่ผู้ที่แยกกักตัวที่บ้านได้ใช้ในการดูแลตนเอง โดยในวันนี้ จะลงพื้นที่ชุมชนอีก 117 แห่ง ทั้งนี้ สำนักอนามัย โดยศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ได้จัดทีม Bangkok CCRT จำนวน 138 ทีม ร่วมกับทีมภาคีเครือข่าย อาทิ กรมควบคุมโรค และสภากาชาดไทย เพื่อเร่งลงพื้นที่ชุมชนให้ครบภายในเดือน ก.ค.นี้

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) จิตอาสาพระราชทาน 904 และภาคประชาชน จัดทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก Bangkok CCRT ลงพื้นที่ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ระหว่างวันที่ 15-31 ก.ค. 64  

โดยทำหน้าที่ดังนี้  1.สำรวจชุมชนเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์  2.ให้บริการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit  3.ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยการจ่ายยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และให้คำแนะนำในการแยกกักที่บ้าน (HI : Home Isolation) และมอบชุด HI แก่ผู้ป่วยที่สามารถกักตัวที่บ้านได้ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ ทีมจะนำผู้ป่วยนำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (CI : Community Isolation)

ซึ่ง กทม.ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแล้ว 52 แห่ง ในพื้นที่ 49 เขต เปิดบริการรับผู้ป่วยแล้ว 21 ศูนย์ โดยจะเปิดเพิ่มอีกให้ครบทั้ง 50 เขต 4.ดำเนินการกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่บ้าน และมอบชุด HQ : Home Quarantine หรือส่งเข้า LQ : Local Quarantine ตามความเหมาะสม 5.ให้บริการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ และ 6.สื่อสารทำความเข้าใจ ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ตลอดจนการปฏิบัติตนให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19.