เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 28 ก.พ. ร.ต.อ.อมรศิลป์ มณีศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านฟรีฟอร์มเฟอร์นิเจอร์ จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เลขที่ 303-305 ถนนพหลโยธิน ตรงข้ามตลาดสดสืบศิริ เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง เทศบาลเมืองสระบุรี กว่า 10 คัน ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น 4 คูหา เพลิงกำลังลุกไหม้รุนแรง มีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากภายในร้านบริเวณชั้นล่าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เนื่องจากมีเปลวไฟลุกไหม้มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร และกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่าง เนื่องจากเป็นช่วงเช้า มีประชาชนมาตลาดฝั่งตรงข้ามกันจำนวนมาก
จากนั้นเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะเป็นร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ มีสินค้ามากมายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟลุกลามไปยังชั้น 2-3 ของร้านและด้านหลังร้านอย่างรวดเร็ว จึงต้องประสานรถน้ำ และรถกระเช้าของเทศบาลเมืองสระบุรี มาเสริมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ส่วนผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือสามารถช่วยเหลือตัวเอง งัดประตูหลังหนีออกมาได้บาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อนายอานนท์ เรืองเนตร อายุ 35 ปี เป็นคนดูแลร้านดังกล่าว บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจสอบพบเฟอร์นิเจอร์ภายในร้านเสียหายหมด จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายอานนท์ ผู้ดูแลร้าน เบื้องต้นให้การว่า ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ที่เกิดเหตุเป็นร้านในเครือของบริษัท “สยามชัย” ตนมีหน้าที่ดูแลร้าน โดยนอนพักอาศัยอยู่บริเวณชั้นล่างของร้านคนเดียวเพียงลำพัง ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังนอนหลับอยู่นั้น รู้สึกตัวว่ามีไอความร้อน และกลุ่มควันเข้ามาจำนวนมาจนหายใจไม่ออก ต้องสะดุ้งตื่น เห็นเพลิงลุกไหม้ไปทั่วชั้นล่างของร้าน จนไม่สามารถเปิดประตูหน้าร้านหนีออกไปได้ ได้แต่ตะโกนร้องเรียกขอความช่วยเหลือ พร้อมหนีไปด้านหลังใช้มืองัดประตูหลังร้านหนีตายออกมาได้หวุดหวิด
พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงได้แล้ว ที่เป็นห่วงคือบริเวณด้านหลังเป็นชุมชนหนาแน่นประกอบกับที่เกิดเหตุเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ มีวัสดุไม้ และผ้าจำนวนมากเกรงว่าจะมีการปะทุขึ้นมาอีก จึงให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเลี้ยงไว้อีกสักระยะ ส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหายยังไม่ทราบแน่ชัด อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาหลักฐาน และติดต่อเจ้าของร้าน มาสอบสวน อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป