สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงรายงานที่ว่า รัสเซียส่ง “ทีมเจรจา” เดินทางไปรอที่เมืองโกเมิล ทางตอนใต้ของเบลารุส ใกล้กับพรมแดนยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ว่า “เป็นไปไม่ได้” ที่รัฐบาลเคียฟจะส่งคณะผู้แทนไปหารือกับฝ่ายรัสเซีย ที่เบลารุส เนื่องจากทั้งสองประเทศ “เป็นพวกเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกียืนยันว่า ยูเครน “มีความจริงใจ” ที่จะพบหารือกับรัฐบาลมอสโก เพื่อยุติการสู้รบครั้งนี้ “แต่ขอเป็นประเทศซึ่งมีความเป็นกลางอย่างแท้จริง”
ขณะเดียวกัน ผู้นำยูเครนเดินหน้าประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย “มีสัญญาณของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และเรียกร้องการเพิกถอนรัสเซีย ออกจากการเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี )
หลังจากนั้นไม่นาน ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส กล่าวว่า เซเลนสกีควรเร่งส่งคณะผู้แทนมาเจรจากับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมอสโกโดยด่วน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายมากไปกว่านี้ จนถึงขั้นที่ยูเครน “ต้องสูญเสียสถานะของความเป็นรัฐ” ในอนาคต
ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียเข้ามาปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้เคลื่อนพลเข้าสู่เมืองคาร์คอฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดก่อนถึงกรุงเคียฟ.
เครดิตภาพ : REUTERS